Last updated: 16 เม.ย 2566 | 400 จำนวนผู้เข้าชม |
ส.อ.ท. คาดยอดจองมอเตอร์โชว์ เกิน 4 หมื่นคัน ยอดผลิต ก.พ. เพิ่มกว่า 1.6 แสนคัน ขณะที่ยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 7,536 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกพ.ปีที่แล้วร้อยละ 763.23
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม 2566 นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมแถลงข่าวเปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 พบว่า
ผลิตรถยนต์ได้ 165,612 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 6.39 เพิ่มขึ้นเพราะได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น จึงผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.17 และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.39 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 2.02
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 71,551 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 9.11 แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 3.94 ลดลงจากการผลิตรถกระบะเพื่อการขนส่งลดลงถึงร้อยละ 54.13 เพราะขาดชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ส่งผลให้ยอดขายรถกระบะลดลงถึงร้อยละ 23.5
ส่งออกได้ 88,525 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว ร้อยละ 2 และเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 11.42 เพิ่มขึ้นเพราะได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้นจึงผลิตส่งออกรถยนต์นั่งและรถกระบะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีปัญหาเรื่องพื้นที่ในเรือขนส่งรถยนต์ (Ro-Ro) ไม่เพียงพอและวนกลับมาจากท่าเรือประเทศออสเตรเลียมารับรถยนต์รอบใหม่ล่าช้าจากรถยนต์ที่ส่งจากประเทศไทยมีดอกหญ้าติดไปกับรถ ต้องล้างทำความสะอาดรถเป็นจำนวนมาก ทำให้รถยนต์บนเรือไม่สามารถขึ้นท่าเรือได้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีทั้งสิ้น 165,612 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 6.39 เพิ่มขึ้นเพราะได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น จึงผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.17 และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.39 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 2.02
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 327,939 คัน และเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 6.68
รถยนต์นั่ง เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผลิตได้ 59,040 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 40.91
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 มีจำนวน 115,664 คัน เท่ากับร้อยละ 35.27 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 32.74
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผลิตได้ 12 คัน รวมเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 ผลิตได้ 24 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 100
รถยนต์บรรทุก เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 106,560 คัน ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 6.33 และตั้งแต่เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 212,251 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 3.64
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 103,916 คัน ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 5.84 และตั้งแต่เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 207,264 คัน เท่ากับร้อยละ 63.20ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 3 โดยแบ่งเป็น
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผลิตได้ 2,644 คัน ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 22.28 รวมเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 ผลิตได้ 4,987 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 24.51
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผลิตได้ 95,612 คัน เท่ากับร้อยละ 57.73 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 16.17 ส่วนเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 187,144 คัน เท่ากับร้อยละ 57.07 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 11.73
รถยนต์นั่ง เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผลิตเพื่อการส่งออก 25,316 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 50.04 และตั้งแต่เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 52,733 คัน เท่ากับร้อยละ 34.05 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 40.42
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนกุมภาพันธ์ 2566 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 70,296 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 7.44 และตั้งแต่เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 134,411 คัน เท่ากับร้อยละ 64.85 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 3.44 โดยแบ่งเป็น
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผลิตได้ 70,000 คัน เท่ากับร้อยละ 42.27 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 4.58 และเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ผลิตได้ 140,795 คัน เท่ากับ ร้อยละ 42.93 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 0.64
รถยนต์นั่ง เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 33,724 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 34.76 และตั้งแต่เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ผลิตได้ 62,931 คัน เท่ากับร้อยละ 54.41 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.93
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนกุมภาพันธ์ 2566 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 33,620 คัน ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 25.18 และตั้งแต่เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 72,853 คัน เท่ากับร้อยละ 35.15 ของยอดการผลิตรถกระบะ แต่ลดลงจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 12.98 ซึ่งแบ่งเป็น
รถจักรยานยนต์
เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 219,580 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 11.39 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 188,272 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 32.96 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 31,308 คัน แต่เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 43.61
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 457,401 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 11.96 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 382,182 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 22.98 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 75,219 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 23.06
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 71,551 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 9.11 แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 3.94 ลดลงจากการผลิตรถกระบะเพื่อการขนส่งลดลงถึงร้อยละ 54.13 เพราะขาดชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ส่งผลให้ยอดขายรถกระบะลดลงถึงร้อยละ 23.5
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 162,847 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 2.25 และเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 9.20
ตั้งแต่เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 รถยนต์มียอดขาย 137,130 คัน ลดลงจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 4.73 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 322,104 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 9.48
การส่งออก
รถยนต์สำเร็จรูป
เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ส่งออกได้ 88,525 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว ร้อยละ 2 และเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 11.42 เพิ่มขึ้นเพราะได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้นจึงผลิตส่งออกรถยนต์นั่งและรถกระบะเพิ่มขึ้นร้อยละ 50.04 และร้อยละ 7.44 ตามลำดับ ทำให้ส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย ตะวันออกกลาง อเมริกากลางและอเมริกาใต้ อย่างไรก็ตามยังมีปัญหาเรื่องพื้นที่ในเรือขนส่งรถยนต์ (Ro-Ro) ไม่เพียงพอและวนกลับมาจากท่าเรือประเทศออสเตรเลียมารับรถยนต์รอบใหม่ล่าช้าจากรถยนต์ที่ส่งจากประเทศไทยมีดอกหญ้าติดไปกับรถ ต้องล้างทำความสะอาดรถเป็นจำนวนมาก ทำให้รถยนต์บนเรือไม่สามารถขึ้นท่าเรือได้ มูลค่าการส่งออก 54,801.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 20.34
เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 175,311 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 17.43 มีมูลค่าการส่งออก 107,473.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 21.70 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 144,013.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 4.76
รถจักรยานยนต์
เดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีจำนวนส่งออก 77,584 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 11.41 และลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 14.91 โดยมีมูลค่า 6,560.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 6.22
เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 165,158 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 6.72 มีมูลค่า 12,895.23 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 1.22
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 13,757.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 2.43
เดือนกุมภาพันธ์ 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 81,299.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 4.24
เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 157,770.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 4.56
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนกุมภาพันธ์ 2566
เดือนกุมภาพันธ์ 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 7,536 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วร้อยละ 763.23 โดยแบ่งเป็น
เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 12,243 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ปีที่แล้วร้อยละ 715.66 โดยแบ่งเป็น
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนกุมภาพันธ์ 2566
เดือนกุมภาพันธ์ 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 7,921 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วร้อยละ 47.70 โดยแบ่งเป็น
เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 15,605 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ปีที่แล้วร้อยละ 60.58 โดยแบ่งเป็น
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนกุมภาพันธ์ 2566
เดือนกุมภาพันธ์ 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,249 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วร้อยละ 30.51 โดยแบ่งเป็น
เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 2,210 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ปีที่แล้วร้อยละ 31.63 โดยแบ่งเป็น
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566
ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 44,294 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 244.19 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566
ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 275,193 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 33.47 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566
ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 44,596 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 36.19 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
5 พ.ย. 2567