Last updated: 20 ส.ค. 2566 | 597 จำนวนผู้เข้าชม |
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่ 15 รุ่น ภายใต้ 5 แบรนด์หลัก HAVAL, TANK, ORA, POER และ WEY ที่งานเซี่ยงไฮ้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออโตโมบิล อินดัสตรี เอ็กซิบิชั่น ครั้งที่ 20 หรือ ออโต้ เซี่ยงไฮ้ 2023 ขนทัพยานยนต์พลังงานใหม่จัดแสดงอย่างครบครัน
มร. ปาร์เกอร์ ฉี รองประธาน และหัวหน้าฝ่ายตลาดระหว่างประเทศ เกรท วอลล์ มอเตอร์ กล่าวถึงการร่วมออกบูธในงานออโต้ เซี่ยงไฮ้ ครั้งนี้ว่าเป็นการพลิกโฉมอย่างเต็มกำลังของเกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อมุ่งสู่พลังงานใหม่ มีความคืบหน้าที่ดี ด้วยการให้ความสำคัญกับระบบนิเวศพลังงานสีเขียว (Forest Ecosystem) เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ชาญฉลาดยิ่งขึ้น และดียิ่งขึ้น ให้แก่ผู้ใช้ทั่วโลกผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาของบริษัทฯ ที่ว่า "Improving Little by Little Everyday" หรือการพัฒนาทีละน้อย ๆ ในทุก ๆ วัน อย่างต่อเนื่อง
ด้วยการเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่กว่า 15 รุ่น ภายใต้แบรนด์หลัก HAVAL, TANK, ORA, POER และ WEY
GWM HAVAL เป็นรถยนต์เอสยูวีขนาดกลางที่ใช้พลังงานใหม่ (ใช้ชื่อว่า Fierce Dragon MAX ในตลาดประเทศจีน) เตรียมเปิดตัวออกวางจำหน่ายในประเทศจีนเป็นครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ก่อนจะเปิดตัวสู่ตลาดโลก ถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล่าสุด GWM Hi4 ซึ่งย่อมาจาก 'Hybrid Intelligent Four-Wheel Drive' เหนือชั้นด้วยสมรรถนะการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลไทม์ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นบนระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ประกอบด้วยมอเตอร์ขับเคลื่อน 3 ชุด (เครื่องยนต์ 1 ชุด และ อี-มอเตอร์ 2 ชุด)
รถยนต์รุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมแนวคิดการออกแบบใหม่ที่มีภาพลักษณ์ที่อ่อนเยาว์และล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น เทคโนโลยี Hi4 ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ช่วยให้รถเอสยูวีขนาดกลางรุ่นนี้ขับเคลื่อนต่อไปได้แม้แบตเตอรี่ที่มีขนาด 20 kWh หมดพลังงาน มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานมากถึง 5.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) สามารถขับเคลื่อนได้ที่ระยะทางสูงสุด 1,200 กิโลเมตร เมื่อมีน้ำมันเต็มถังและชาร์จหนึ่งครั้ง โดยสามารถวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าได้ถึง 105 กิโลเมตร
ด้วยศักยภาพของตัวรถที่สามารถขับขี่ได้แบบไฮบริดโดยไม่ต้องชาร์จไฟเมื่อแบตเตอรี่มีพลังงานต่ำ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เชื่อว่ารถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้มีความเหมาะสมที่จะถูกนิยามว่าเป็นรถ "EV+" อย่างแท้จริง ด้วยประสิทธิภาพทัดเทียมกับระบบไฮบริดที่ไม่ต้องชาร์จไฟ
HAVAL Fierce Dragon MAX ไม่เพียงมีการออกแบบภายนอกที่โดดเด่นล้ำสมัย แต่ยังโดดเด่นด้วยนวัตกรรมที่ยกระดับมาตรฐานของรถยนต์เอสยูวีดั้งเดิมให้สูงขึ้นอีกขั้น มาพร้อม Coffee OS ระบบปฏิบัติงานในห้องโดยสารอัจฉริยะเจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วยจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว จอแสดงผลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว และระบบจอแสดงผลบนกระจกหน้ารถ (W-HUD) ขนาด 10 นิ้ว ฟีเจอร์เหล่านี้ทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมให้ผู้ขับขี่
HAVAL Fierce Dragon MAX เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าพลังงานใหม่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ออกแบบมาเพื่อการขับขี่บนทุกเส้นทาง เหมาะสำหรับทุกสไตล์การขับขี่ ถือเป็นรถยนต์ที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของแบรนด์ HAVAL ในการพลิกโฉมสู่พลังงานใหม่ Fierce Dragon MAX จึงได้สร้างมาตรฐานใหม่และเป็นผู้นำรถยนต์เซกเมนต์เอสยูวีพลังงานใหม่ โดยมีข้อมูลทางเทคนิคดังนี้
• ขนาดตัวถัง : 4,758 มม. × 1,895 มม. × 1,725 มม.
• ระยะฐานล้อ : 2,800 มม.
• พื้นที่จัดเก็บสัมภาระ : 551 ลิตร (มาตรฐาน VDA) และ 1,377 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวที่ 2
• พละกำลัง : 205 กิโลวัตต์ และ 585 นิวตันเมตร พร้อมอี-มอเตอร์ 150 กิโลวัตต์และ 350 นิวตันเมตรที่ด้านหลัง
GWM Pickup รถกระบะ 6x6 เวอร์ชั่นใหม่ของ GWM POER เปิดตัวพร้อมกับ POER Shanhai PHEV/HEV รถกระบะไฮบริดขนาดใหญ่สมรรถนะสูงเพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติล้ำสมัยมากมายที่จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในกลุ่มรถกระบะพลังงานใหม่
กระบะ Shanhai Cannon คือยานยนต์ขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับระยะฐานล้อ 3,350 มม. มิติตัวถังมีขนาด 5,440 มม. × 1,991 มม. × 1,924 มม. ระยะฐานล้อที่ยาวเป็นพิเศษนี้ทำให้ตัวรถมีพื้นที่กว้างขวางและโอ่โถงเทียบเท่ารถเอสยูวีขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่ตามแนวขวางเพิ่มขึ้นถึง 60 มม.จึงมีพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับที่พักข้อศอก ทำให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกสบายในการขับขี่และเดินทางมากยิ่งขึ้น มีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระกว้างขวางมากถึง 1,140 ลิตร พร้อมด้วยรูปลักษณ์ที่สูง สง่างาม และทรงพลัง ขนาดตัวถังที่เหนือกว่าของรถกระบะรุ่นนี้ไม่เพียงตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ยังแสดงถึงตัวตนและรสนิยมของเจ้าของผ่านรูปลักษณ์ของตัวรถที่สูงสง่าและทรงพลังอีกด้วย
Shanhai Cannon ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 3.0T V6 เทอร์โบชาร์จคู่ และเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T VGT เทอร์โบชาร์จ มอบพละกำลังสูงสุด 260 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7.49 วินาที เพลาหน้าและหลังมีระบบล็อกเฟืองท้าย ชุดเกียร์ส่งกำลังระบบล็อกแบบกลไก 4A+LOCK และสามารถโลดแล่นบนถนนได้หลากหลายรูปแบบอย่างง่ายดายด้วยชุดทดเกียร์ในโหมด 4L
รถกระบะรุ่นนี้มาพร้อมแผงมาตรวัดหรูขนาด 12.3 นิ้ว และจอควบคุมกลางขนาด 14.6 นิ้ว แสดงผลความละเอียดคมชัดสูงและมีสีสันชัดเจน อีกทั้งยังติดตั้งระบบควบคุมการขับขี่แสดงผลบนกระจกหน้า HUD ซันรูฟขนาดใหญ่ ระบบเครื่องเสียงของแบรนด์ Yanfeilishi พร้อมลำโพง 10 ตัว และระบบตัดเสียงรบกวน ANC เพื่อห้องโดยสารที่เงียบสงบและสะดวกสบาย
ด้วยศักยภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างหลากหลาย Shanhai Cannon สามารถตอบสนองความต้องการเดินทางของลูกค้าได้เหนือกว่าด้วยระบบพ่วงท้ายมาตรฐานระดับประเทศ การออกแบบโครงสร้างต่อพ่วงอุปกรณ์ลากจูงแบบคู่ ระบบตะขอหัวบอลสำหรับลากจูง และแท่นเซฟตี้ยึดสายลาก รองรับน้ำหนักลากจูงสูงสุด 3.3 ตัน และมีช่องจ่ายไฟฟ้าที่ส่วนลากจูงในตัว เพื่อให้ผู้ใช้ไม่ต้องดัดแปลงระบบการจ่ายไฟฟ้าดั้งเดิมของตัวรถ
GWM TANK ได้จัดแสดงยานยนต์พลังงานใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ TANK 400 PHEV ซึ่งเผยโฉมครั้งแรกในโลก และ TANK 500 PHEV รถเอสยูวีพลังงานใหม่สไตล์ออฟโรดระดับพรีเมียมขนาดกลางถึงใหญ่ที่เปิดจำหน่ายล่วงหน้าทั่วโลก นอกจากนี้ GWM TANK ยังนำเสนอฟีเจอร์เด่นต่าง ๆ มากมาย อาทิ เทคโนโลยีออฟโรดหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Front & Rear Electric Differential Locks) ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด (Offroad Cruise Control) ระบบตรวจจับความลึกของน้ำ (Wading Depth Detection) และระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent System) ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยและความมั่นใจในการขับขี่
ในประเทศไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเปิดตัวรถยนต์แบรนด์ TANK ทั้งหมด 2 รุ่น คือ TANK 500 HEV และ TANK 300 ซึ่งจะช่วยยกระดับความเป็นผู้นำยานยนต์พลังงานใหม่ในเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียมออฟโรดเอสยูวี
GWM WEY มุ่งเน้นแนวคิด “พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะที่ไร้ความกังวล” ด้วยการเผยโฉม WEY Gaoshan PHEV รถเอ็มพีวีรุ่นแรกสู่สายตาคนทั่วโลก พร้อมกับจัดแสดง Lanshan PHEV รถเอสยูวีไฟฟ้า 6 ที่นั่ง เพื่อขับเคลื่อนแบรนด์สู่ตลาดยานยนต์พลังงานใหม่อัจฉริยะระดับไฮเอนด์ นอกจากนี้ GWM ORA ยังเผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นอีกด้วย
ด้วยเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ต้องการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่อนาคตของพลังงานไฟฟ้า เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังจัดแสดงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากมาย อาทิ เครื่องยนต์ 3.0T V6 + 9HAT + แพลตฟอร์ม P2, ระบบขับเคลื่อน Hi4, แพลตฟอร์ม TANK และแพลตฟอร์มซูเปอร์ออฟโรด 6×6 แพลตฟอร์มเทคโนโลยีไฮบริดใหม่ล่าสุดอย่าง Hybrid Intelligent 4WD หรือ Hi4 ซึ่งประกอบด้วยระบบขับเคลื่อน 2 รูปแบบ มีพละกำลังสูงสุด 340 กิโลวัตต์ ครอบคลุมรถยนต์กลุ่ม A-C
ระบบขับเคลื่อนอี-ไฮบริดดังกล่าวจะปฏิวัติตลาดรถยนต์เอสยูวีไฮบริดด้วยการมีประสิทธิภาพทางความร้อนระดับชั้นนำในอุตสาหกรรมที่ 41.5% ด้วยระบบการเผาไหม้ที่ก้าวล้ำหน้า ระบบหัวฉีดไดเรคอินเจคชั่นแรงดันสูง และเทคโนโลยีการหมุนเวียนไอเสียแรงดันต่ำ
กลยุทธ์การควบคุมและจัดการพลังงานอัจฉริยะของแพลตฟอร์ม Hi4 ทำให้มีการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและเพิ่มความประหยัดพลังงานในยานยนต์ให้สูงขึ้นประมาณ 8% เมื่อเทียบกับระบบการจัดการพลังงานดั้งเดิม นอกจากนี้ ยังมีอัตราเร่งที่เป็นเลิศ สามารถเร่งได้ถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 2.88 วินาที และเร่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 6.4 วินาที เร็วกว่าระบบขับเคลื่อนที่ใช้มอเตอร์คู่แบบดั้งเดิม 1 วินาทีและ 1.8 วินาทีตามลำดับ เมื่อขับขี่ภายใต้สถานการณ์เดียวกัน
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทุ่มเงินลงทุน 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 1 แสนล้านบาท ในการรวบรวมทรัพยากรและผนึกกำลังบุคลากรที่มีความสามารถจากทั่วโลกมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อเปิดตัวแพลตฟอร์มโมดูลาร์เจนเนอเรชั่นใหม่ 2 รุ่นของเกรท วอลล์ มอเตอร์ โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวได้ถูกออกแบบมาภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาแบบครบวงจรระดับโลก และสนามทดสอบที่มีความหลากหลายของสภาพอากาศและสภาพถนน ตลอดจนการคำนึงถึงเทรนด์ของเทคโนโลยี การจัดการความร้อน มลพิษไอเสีย การบริโภคเชื้อเพลิง และองค์ประกอบสำคัญอื่น ๆ ที่สนับสนุนการพัฒนาและทดสอบผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
ด้วยการยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในปรัชญายานยนต์พลังงานใหม่อัจฉริยะของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่ว่า “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า มาตรฐานสูงกว่า ปลอดภัยกว่า” หรือ “Greener, Higher, and Safer” เกรท วอลล์ มอเตอร์ จึงให้ความสำคัญกับระบบนิเวศพลังงานสีเขียว เพื่อเร่งการยกระดับผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์พลังงานใหม่ที่มีคุณภาพเหนือกว่าและอัจฉริยะยิ่งขึ้นให้แก่ผู้ขับขี่ทั่วโลก ทั้งยังมุ่งมั่นที่จะสานต่อและผลักดันพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอัจฉริยะผ่านระบบนิเวศพลังงานสีเขียว เพื่อให้สอดคล้องกับคำประกาศของบริษัทฯ ในปี 2564 ที่ต้องการมุ่งสู่เป้าหมาย “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” ภายในปี 2588
ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้พัฒนาห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดของระบบโซลาร์ พลังงาน แบตเตอรี่ พลังงานไฮโดรเจน และระบบขับเคลื่อนยานยนต์ที่มีความมั่นคง มีเครือข่ายครอบคลุม และเป็นแบบกระจายศูนย์จนสำเร็จ ซึ่งจะถูกแผ่ขยายสู่ทั่วโลกในอีกไม่ช้า อีกทั้งยังเป็นบริษัทรถยนต์รายแรกที่ทำลายข้อจำกัดของการแปลงพลังงานจากอนุภาคของแสง (Photon) เป็นอนุภาคประจุไฟฟ้า (Electron) อยู่ที่ 20% จึงถือครองสถิติโลกและสร้างความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
เกี่ยวกับ เกรท วอลล์ มอเตอร์:
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เป็นบริษัทฯที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก ที่มุ่งมั่นนำเสนอประสบการณ์การขับเคลื่อนอัจฉริยะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก มีธุรกิจครอบคลุมขอบเขตต่าง ๆ อย่างการออกแบบยานยนต์และชิ้นส่วน การวิจัยและพัฒนา การผลิต การจัดจำหน่าย และมีการลงทุนเชิงรุกอย่างไม่หยุดยั้งในโซลูชันพลังงานทางเลือก อย่างเช่น ไฮโดรเจนและพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงเทคโนโลยีที่ก้าว ล้ำหน้าอย่างเทคโนโลยีปัญญาขั้นสูง ระบบขับขี่อัตโนมัติและชิป
ที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ก่อตั้งเครือข่ายการจัดจำหน่ายระดับโลกที่ครอบคลุมมากกว่า 170 ประเทศในหลายภูมิภาค พร้อมทั้งมีจุดจัดจำหน่ายมากกว่า 700 แห่งในตลาดนอกประเทศจีน จนมียอดขายสะสมมากกว่า 12 ล้านคันในปี 2565 โดยมีรายได้รวมทั้งหมด 1.37 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 23.09 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้บริษัทฯ จัดจำหน่ายยานยนต์ได้ถึง 1,067,523 คันในปีที่แล้ว ถือเป็นปีที่ 7 ติดต่อกันที่สามารถทำยอดขายทั่วโลกได้สูงกว่า 1 ล้านคัน สามารถเข้าชมรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ GMW Global www.gwm-global.com
5 พ.ย. 2567