X

ดีเอชแอล โกลเบิล เปิดตัวรถขนส่ง EV เดินหน้าใช้รถตู้-รถบรรทุกไฟฟ้าขนส่งสินค้าในกรุงเทพฯ เผยลดคาร์บอนได้ 85,000 กก./ปี

Last updated: 16 ต.ค. 2566  |  871 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ดีเอชแอล โกลเบิล เปิดตัวรถขนส่ง EV เดินหน้าใช้รถตู้-รถบรรทุกไฟฟ้าขนส่งสินค้าในกรุงเทพฯ

ดีเอชแอล โกลเบิล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง ประเทศไทย เปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV) เดินหน้าใช้รถตู้และรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้ารองรับงานขนส่งสินค้าในกรุงเทพฯ ประเมินระยะทางขนส่ง 28,000 กม./เดือน ลดคาร์บอนไดออกไซค์ 85,000 กก./ปี

กรุงเทพฯ, 16, ตุลาคม 2566 – ดีเอชแอล โกลเบิล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง (DHL Global Forwarding) ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งสินค้าของกลุ่มบริษัทดีเอชแอล ประกาศก้าวสำคัญในเส้นทางสู่ความยั่งยืน ด้วยการเปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV) สำหรับการใช้งานในกรุงเทพฯ โดยรถไฟฟ้าเหล่านี้จะวิ่งขนส่งรวมระยะทางเกิน 28,000 กิโลเมตรต่อเดือน และจัดส่งสินค้าประมาณ 1,000 ตันให้กับลูกค้า การนำรถขนส่งพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่มาใช้งานในครั้งนี้ ดีเอชแอล โกลเบิล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง ประเทศไทย ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 85,000 กิโลกรัมต่อปี เทียบเท่ากับเที่ยวบินไป-กลับ 27 เที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปยังลอนดอนสำหรับนักท่องเที่ยวหนึ่งคน

รถ EV รุ่นใหม่มีความสามารถในการชาร์จที่รวดเร็ว โดยใช้เวลาในการชาร์จเกินกว่าหนึ่งชั่วโมงเล็กน้อย รถตู้ไฟฟ้าที่ชาร์จไฟเต็มสามารถเดินทางไกลได้ถึง 200 กิโลเมตร และบรรทุกของได้มากถึง 800 กิโลกรัม ขณะที่รถบรรทุกไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ไกลถึง 350 กิโลเมตร และบรรทุกของได้สูงสุด 5,000 กิโลกรัม โดยมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยมาตรฐาน ได้แก่ ระบบเบรก ABS, ระบบล็อคอัตโนมัติ, สัญญาณเตือนโดยใช้เซ็นเซอร์ และระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) เพื่อรับรองความปลอดภัยในการขับขี่ให้กับพนักงานขนส่ง



โธมัส ทีเบอร์ซีอีโอ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของดีเอชแอล โกลเบิล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง ได้นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการนี้ โดยกล่าวว่า “ที่ดีเอชแอล มีความเชื่อมั่นในพลังของนวัตกรรมและความยั่งยืน ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้มุ่งมั่นสร้างสรรค์อนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน การนำรถ EV มาใช้ในการดำเนินงานในกรุงเทพฯ ทำให้เราใช้วิธีการขนส่งที่เป็นมิตรมากขึ้น และเป็นผู้นำในเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกค้าและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมการเดินทางที่ดีกว่าไปกับเรา”

ทั้งนี้ การริเริ่มใช้รถ EV ในกรุงเทพฯ เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ GoGreen ในวงกว้างของบริษัทฯ  โดยมีอีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ แนวทางปฏิบัติที่มีมายาวนานของดีเอชแอล โกลเบิล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง ในการช่วยเหลือลูกค้าประเมินการปล่อยก๊าซคาร์บอนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์แบบครบวงจร MyDHLi ซึ่งมอบทางเลือกให้กับลูกค้าในการลดคาร์บอนแบบอินเซ็ต (Inset) และการชดเชยคาร์บอน (Offset) เพื่อช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการขนส่งของลูกค้า



ภายใต้ก้าวย่างที่สำคัญในการบรรลุวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืน ดีเอชแอลได้ลงทุนกับการดำเนินงานอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในระดับโลก โดยกลุ่มบริษัทดีเอชแอลมีแผนที่จะลงทุน 7 พันล้านยูโรภายในปี 2573 ในโครงการริเริ่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือน้อยกว่า 29 ล้านตัน ซึ่งสอดคล้องกับโครงการ Science-Based Targets Initiative

การใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้าในกรุงเทพฯ เป็นเพียงมุมหนึ่งของกลยุทธ์ของดีเอชแอล โดยดีเอชแอลได้เริ่มใช้ยานยนต์ไฟฟ้า 60% เพื่อการขนส่งลาสไมล์ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงการใช้เชื้อเพลิงที่ยั่งยืนสำหรับการขนส่งทางอากาศและทางทะเล และดำเนินโครงการริเริ่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้เครือข่ายทั่วโลกของบริษัทฯ

เกี่ยวกับ ดีเอชแอล (DHL)

ดีเอชแอล เป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ แผนกต่าง ๆ ของดีเอชแอลมีพอร์ตฟอลิโอบริการโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมตั้งแต่การจัดส่งพัสดุระดับประเทศและระหว่างประเทศ โซลูชันการขนส่งและการจัดการคลังสินค้าพร้อมจัดส่งสำหรับอีคอมเมิร์ซ การขนส่งด่วนระหว่างประเทศ ทางถนน ทางอากาศ และทางมหาสมุทร ไปจนถึงการบริหารจัดการซัพพลายเชนอุตสาหกรรม มีพนักงานราว 395,000 คนในกว่า 220 ประเทศและเขตแดนทั่วโลก มีการเชื่อมต่อผู้คนและธุรกิจอย่างมั่นคงปลอดภัยและเชื่อถือได้

การดำเนินงานมุ่งอำนวยความสะดวกให้เกิดการไหลเวียนของการค้าระดับโลกที่ยั่งยืน มีโซลูชันเฉพาะทางสำหรับตลาดและอุตสาหกรรมการเติบโต รวมถึงเทคโนโลยี ชีววิทยาศาสตร์และบริการสุขภาพ วิศวกรรม การผลิตและพลังงาน ยานยนต์ และการค้าปลีก โดยมีความมุ่งมั่นในการเป็น “บริษัทโลจิสติกส์เพื่อโลก”

ทั้งนี้ ดีเอชแอลเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทดีเอชแอล (DHL Group) โดยทางกลุ่มบริษัทฯ มีรายได้มากกว่า 94,000 ล้านยูโรในปี 2565 ด้วยแนวปฏิบัติทางธุรกิจที่ยั่งยืนและการยึดมั่นในพันธกิจเพื่อสั่งคมและสิ่งแวดล้อม มุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลก และสร้างระบบโลจิสติกส์ที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี 2593

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้