Last updated: 6 มิ.ย. 2568 | 104 จำนวนผู้เข้าชม |
บริษัท อีเอ็ม มอเตอร์ จำกัด ผู้พัฒนาและผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย ภายใต้แบรนด์ “EM” เปิดตัว “Legend Pro” รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด ชูแนวคิดออกแบบล้ำสมัย เทคโนโลยีขับขี่ตอบโจทย์ผู้ใช้ยุคใหม่ พร้อมเชิญพันธมิตรทางธุรกิจ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของ “Legend Pro” อย่างใกล้ชิดรวมทั้งเปิดโอกาสให้ทดลองขับ และพูดคุยกับทีมผู้บริหารถึงแนวคิดในการพัฒนาแบรนด์ไทยให้สามารถยืนหยัดในอุตสาหกรรม EV ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติได้สำเร็จ
นายธานัท ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีเอ็ม มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่น “Legend Pro” ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัท ในการผลักดันมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้าของไทยให้ก้าวไกลมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการออกแบบที่ทันสมัย ควบคู่กับเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ตอบสนองการใช้งานจริง ที่ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อให้คนไทยทุกกลุ่มสามารถใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างแท้จริง
“Legend Pro” ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิดที่ให้ความสำคัญทั้งด้านสมรรถนะและความปลอดภัย มาพร้อมมอเตอร์กำลังสูง 2,500 วัตต์ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 72V 24Ah รองรับระยะทางขับขี่สูงสุด 80 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ความเร็วสูงสุด 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ติดตั้งระบบเบรก CBS และโช้กอัพคู่ เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ทุกเส้นทาง เสริมด้วยหน้าจอ Smart Display ระบบล็อกอัจฉริยะ ฟังก์ชันค้นหารถ และโหมดขับขี่สปอร์ต เพิ่มความสะดวกและประสบการณ์ที่ครบถ้วนยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้มอบการรับประกันสูงสุดถึง 5 ปี เพื่อยืนยันถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และความมั่นใจในเทคโนโลยีของแบรนด์ EM พร้อมให้คุณได้เป็นเจ้าของแล้ววันนี้ ด้วยราคาพิเศษ 45,740 บาท จากราคาปกติ 65,000 บาท พิเศษสุด สำรับผู้ที่จอง 400 คันแรก แถมฟรีซีลหน้า EM
นายธานัท ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นอกจากการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “Legend Pro” บริษัทฯ ยังได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจ หรือ EM Ecosystem ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความแข็งแกร่งของบริษัทในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในระยะยาว โดยประกอบด้วย 5 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่
1. การผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปี 2023 มียอดจำหน่ายสะสมมากกว่า 10,000 คัน ปัจจุบันมีศักยภาพการผลิตที่ 30,000 คันต่อปี และเตรียมขยายเป็น 70,000 คันต่อปี
2. การผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมภายใน ด้วยเทคโนโลยี cell-to-pack ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐาน UNR136 จากกรมการขนส่งทางบก และ มอก. จากกระทรวงอุตสาหกรรม
3. การจัดตั้งเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย กว่า 120 แห่งทั่วประเทศ โดยทำหน้าที่ทั้งจำหน่ายและให้บริการหลังการขาย ครอบคลุมทุกภูมิภาค
4. การพัฒนาเครือข่ายหัวจ่ายชาร์จไฟฟ้า “EM Charger” ที่ตั้งเป้าหมายติดตั้ง 100 หัวจ่ายทั่วประเทศภายในปี 2025 และขยายเป็น 1,000 หัวจ่ายในปี 2027
5. การจัดตั้งระบบจัดการแบตเตอรี่ใช้แล้ว ด้วยแนวทางการ Repurpose และ Recycle เพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทในปี 2016 กลุ่มบริษัท EM Motor มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 56% ต่อปี โดยมีงบการลงทุนรวมกว่า 400 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจใน 5 หมวดหลัก ได้แก่ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EM, จักรยานไฟฟ้า ECO, จักรยานทั่วไป, แบตเตอรี่ลิเธียมภายใต้แบรนด์ Longlive Energy และหัวชาร์จไฟฟ้าสาธารณะ EM Charger
นายธานัท กล่าวในตอนท้ายว่า บริษัทตั้งเป้าหมายจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจำนวน 5,300–6,500 คัน และรักษาส่วนแบ่งตลาดให้ไม่ต่ำกว่า 20% ภายในปี 2025 โดยมุ่งเน้นการเสริมความแข็งแกร่งของระบบนิเวศ EV ในทุกมิติ เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาด และสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาว
“เราไม่ได้เพียงแค่สร้างรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า แต่เรากำลังสร้างความมั่นใจให้คนไทยกล้าที่จะเปลี่ยน เพื่ออนาคตของการเดินทางที่สะอาด ปลอดภัย และยั่งยืน ภายใต้แบรนด์ไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของ EM Motor ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ด้วยนวัตกรรมที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
ผู้ที่สนใจหรือต้องการทดลองขับขี่ สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่าย EM MOTOR ใกล้บ้านท่านทั่วประเทศ หรือ ติดต่อผ่าน Facebook : EM Motor Thailand