Last updated: 19 มิ.ย. 2568 | 117 จำนวนผู้เข้าชม |
เอ็มจี โชว์ศักยภาพของ “ไฮบริดตัวจี๊ด” ALL NEW MG3 HYBRID+ ในรายการ GC GRID Competition โดยไม่มีการจูนเครื่องยนต์ มีการปรับเปลี่ยนเพียงบางจุดเพื่อให้เหมาะสมกับสนามแข่ง คือเปลี่ยนยางคู่หน้าเป็น YOKOHAMA Advan A052 และยางหลังเป็น YOKOHAMA Advan Neova AD08RS ปรับเซ็ตช่วงล่างโดย PROFENDER และติดตั้งระบบเบรกจาก RUNSTOP เพื่อรองรับจังหวะและสไตล์การขับในสนามอย่างเฉพาะเจาะจง
กรุงเทพฯ – 19 มิถุนายน 2568 - บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย สร้างผลงานในเกมการแข่งขัน Gymkhana อย่างต่อเนื่อง หลังจากส่ง NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ที่ไม่ได้มีการจูนอัพ หรืออัพเกรดช่วงล่าง กรุยทางประเดิมลงแข่งในสนาม Gymkhana GC Grid Competition Series 2025 By HarsonTyres เป็นรุ่นแรก ล่าสุด เอ็มจี เสริมทัพเพิ่มอีกรุ่น ด้วยการส่ง ALL NEW MG3 HYBRID+ ลงแข่งขันในรายการเดียวกัน โชว์ศักยภาพ “ไฮบริดตัวจี๊ด” พร้อมต่อยอดการพิสูจน์สมรรถนะของรถแฮทช์แบ็กในสนามแข่งจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระบบ HYBRID+ ที่ตอบสนองได้ดีส่งให้รถคล่องตัวและควบคุมได้อย่างยอดเยี่ยมในสนามแข่งที่ท้าทาย การลงสนามแข่งครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ เอ็มจี ที่มุ่งพัฒนาและยกระดับรถยนต์ให้มีสมรรถนะที่ดี พร้อมลงสนามแข่งได้โดยไม่ต้องปรับจูนเพิ่มเติม
ALL NEW MG3 HYBRID+ รถเล็กหัวใจนักแข่ง
ALL NEW MG3 HYBRID+ คือยนตรกรรมแฮทช์แบ็กไฮบริด 5 ประตู ที่ เอ็มจี วางหมากให้เป็น “ยนตรกรรมไฮบริดที่พร้อมจะก้าวสู่โลกของเกมส์การแข่งขัน” สำหรับคนรุ่นใหม่ที่โหยหาความเร้าใจในชีวิตประจำวัน โดยไม่ละทิ้งความคุ้มค่าในการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม First Jobber ที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตการทำงาน หรือสายขับรุ่นใหม่ที่ต้องการรถคันแรกที่ตอบโจทย์ทั้งความสนุกและความมั่นใจบนท้องถนน
รถรุ่นนี้ถูกพิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ได้มีดีแค่ใช้งานในชีวิตประจำวันที่มอบความประหยัดในสไตล์รถไฮบริด แต่พร้อมเปิดประตูสู่เส้นทางการแข่งขัน ด้วยระบบไฮบริดรุ่นใหม่ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 102 แรงม้า (75 กิโลวัตต์) รองรับเชื้อเพลิง E20 กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 136 แรงม้า (100 กิโลวัตต์) พร้อมแรงบิดเร้าใจสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งจาก 0–100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 8 วินาที ช่วงล่างที่ถูกออกแบบใหม่ น้ำหนักเบา ระบบบังคับเลี้ยวแม่นยำ และระบบ Regenerative Braking ช่วยให้ควบคุมได้อย่างมั่นคง แม้ในสถานการณ์ที่ต้องเข้าโค้งหรือเร่งออกตัวอย่างต่อเนื่อง โดดเด่นด้วยระยะทางวิ่งไกลกว่า 800 กิโลเมตรต่อหนึ่งถังน้ำมัน พื้นที่เก็บสัมภาระที่จุได้มากถึง 1,037 ลิตร พร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองและสายขับ
“GC GRID Competition” เวทีพิสูจน์ DNAs ความพลิ้วไหว ว่องไว ของ “ไฮบริดตัวจี๊ด”
บทพิสูจน์ตัวจริงกับเวทีการแข่งขันสนามพิเศษ GC GRID Competition เอ็มจีเดินหน้าผนึกกำลังพันธมิตรระดับแนวหน้าของวงการ ด้วยความร่วมมือกับยางรถยนต์ YOKOHAMA และครีเอเตอร์สายซิ่ง อย่าง คุณตี้ DayDreamDrive เพื่อยกระดับประสบการณ์การแข่งขันไปอีกขั้น โดย ALL NEW MG3 HYBRID+ ถือเป็นการผสานศิลปะของการควบคุมเข้ากับสมรรถนะรถยนต์ และเส้นทางการแข่งขันที่ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน แฝงไปด้วยอุปสรรคแบบ Urban Challenge อาทิ โค้งแคบ ทางเลี้ยวต่อเนื่อง และการหลบหลีกในพื้นที่จำกัด เอ็มจี เชื่อมั่นว่าเหมาะที่สุดสำหรับการเผยศักยภาพที่แท้จริงของตัวรถ และการแสดงออกถึงบุคลิก และสมาธิ เทคนิค ของนักแข่ง ร่วมกับ ALL NEW MG3 HYBRID+ ที่ออกแบบมาให้โดดเด่นในเรื่อง ความคล่องแคล่ว แม่นยำ และการตอบสนองของพวงมาลัยที่เฉียบคม การออกตัวที่ฉับไว ทำให้สามารถพุ่งทะยานเข้าสู่โค้งต่อเนื่องได้ สะท้อนความสมดุลระหว่างความสนุกในการขับขี่กับเทคโนโลยีที่พร้อมลุยทั้งสนามแข่งและท้องถนนจริง
การแข่งขันในรายการนี้ รถ ALL NEW MG3 HYBRID+ ที่ลงแข่งเป็นรถสแตนด์ดาร์ด ไม่มีการจูนเครื่องยนต์หรือตัดต่อกำลังเพิ่มเติมแต่อย่างใด โดยมีการปรับเปลี่ยนเพียงบางจุดเพื่อให้เหมาะสมกับสนามแข่ง ได้แก่ การเปลี่ยนยางคู่หน้าเป็น YOKOHAMA Advan A052 และยางหลังเป็น YOKOHAMA Advan Neova AD08RS ทั้งหมดผ่านการทดสอบจริงก่อนวันแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีการปรับเซ็ตช่วงล่างโดย PROFENDER และติดตั้งชุดระบบเบรกจาก RUNSTOP เพื่อรองรับจังหวะและสไตล์การขับในสนามอย่างเฉพาะเจาะจง
ALL NEW MG3 HYBRID+ คว้าอันดับ 3 แม้ไม่มีการจูนเครื่องยนต์
ALL NEW MG3 HYBRID+ ได้ผ่านการพิสูจน์ความแกร่งในสนามแข่งขันจริงมาแล้วอย่างไม่ธรรมดา ผ่านรายการ GC GRID Competition 2025 รอบที่ 3 และ 4 ณ สนาม ปทุมธานี สปีดเวย์ ที่ระเบิดฟอร์มได้อย่างโดดเด่น โดยสามารถคว้าอันดับที่ 3 มาครอง ในการแข่งขัน สร้างกระแสชื่นชมบนโซเชียลจากแฟนๆ ที่ไม่คาดคิดว่า ALL NEW MG3 HYBRID+ คันเดียวกับที่ใช้จัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา จะสามารถคว้าอันดับ 3 ซึ่งครั้งนี้ไม่เพียงแค่ตอกย้ำถึงศักยภาพของรถไฮบริดตัวจี๊ดคันนี้ แต่ยังประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่า เอ็มจี ไม่ได้เพียงแค่สร้างรถที่ขับขี่สนุกในชีวิตประจำวัน แต่กำลังทะยานเข้าสู่สังเวียนการแข่งขันอย่างมั่นคงและสง่างาม
และในการแข่งขัน GC GRID Competition Exhibition Match ครั้งนี้ ALL NEW MG3 HYBRID+ สามารถสร้างผลงานด้วยการคว้ารางวัล อันดับ 3 รุ่น GC5 “เกียร์ออโต้” (Auto) ได้ทั้ง 2 สนาม ตอกย้ำความเป็น “ไฮบริดตัวจี๊ด” สมรรถนะไฮบริดขับสนุกที่พร้อมลุยทุกโค้งอย่างมั่นใจ นอกจากนี้ NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงจาก เอ็มจี ลงสนามแข่งขันรุ่น GC9 “EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ไม่จำกัดระบบขับเคลื่อน” โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น โดยคว้าอันดับที่ 1 ในการแข่งขันทั้งสองวัน ตอกย้ำศักยภาพของการเป็นรถ “อีวีสายพันธุ์แท้” ที่พร้อมลุยสนามจริงได้อย่างมั่นใจ
เสียงจากนักแข่ง “ตี้ DayDreamDrive” ALL NEW MG3 HYBRID+ ทำให้โลกไฮบริดเปลี่ยนไป
คุณตี้ - ฐนอนันต์ ตีระอรรถชวิน จากเพจ DayDreamDrive นักแข่งและครีเอเตอร์สายยานยนต์ชื่อดัง ซึ่งเป็นนักขับหลักของรุ่นนี้ ได้ถ่ายทอดความประทับใจหลังจบการแข่งขันว่า “ALL NEW MG3 HYBRID+ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือความคาดหมาย เดิมทีผมมีความกังวลเล็กน้อยว่ารถไฮบริดที่ไม่ได้มีการปรับแต่งใด ๆ อาจมีอัตราเร่งที่ไม่ทันใจ แต่เมื่อได้ลองขับจริงกลับพบว่า การตอบสนองของตัวรถรวดเร็วและเฉียบคมอย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะในสนามที่เต็มไปด้วยโค้งต่อเนื่อง ช่วงล่างและระบบพวงมาลัยถูกออกแบบมาอย่างลงตัว จูนเพิ่มอีกนิดก็สามารถทำให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจในสนามแข่ง จนให้ความรู้สึกราวกับกำลังขับรถแข่ง ทั้งที่ความจริงแล้วนี่คือรถที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ถือเป็นรถไฮบริดที่เปลี่ยนภาพจำเดิม ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง”
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การที่เอ็มจีนำ ALL NEW MG3 HYBRID+ ลงแข่งขันในเกมการแข่งขันในรูปแบบ Gymkhana เป็นการประสานระหว่างความสามารถการควบคุมของคนขับและสมรรถนะของรถยนต์ที่ลงตัว และถือเป็นบทพิสูจน์สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรถไฮบริดรุ่นใหม่จากเอ็มจี ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับขี่ได้ทุกวันและแฝงไว้ด้วยหัวใจของการขับสนุกที่ถือเป็นเอกลักษณ์การออกแบบรถยนต์ของ เอ็มจี ซึ่งนี่คือสิ่งที่ เอ็มจี ตั้งใจจะมอบให้ ไม่ใช่แค่ในฐานะรถยนต์ที่ใช้งานได้จริงเท่านั้น แต่ เอ็มจี มอบโอกาสให้ทุกคนได้มีโอกาสสัมผัสความรู้สึกของเกมการแข่งขันอย่างแท้จริง”
ที่มา : MG Thailand