X

เบนท์ลีย์ เผยโฉม EXP 15 ยนตรกรรมต้นแบบพลังไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อ แห่งอนาคต

Last updated: 15 ก.ค. 2568  |  118 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เบนท์ลีย์ เผยโฉม EXP 15 ยนตรกรรมต้นแบบพลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อ แห่งอนาคต

  • EXP 15 สะท้อนวิสัยทัศน์การออกแบบยนตรกรรมแห่งอนาคตที่จะเปลี่ยนแรงบันดาลใจจากมรดกให้กลายเป็นแนวคิดที่ทันสมัย
  • สัดส่วนตัวถังขนาดมาตรฐานและภายในห้องโดยสารเสมือนจริง แม้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการผลิต แต่ตัวรถสะท้อนภาพยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ที่จะเปิดตัวในปี 2569
  • แนวคิดยนตรกรรมต้นแบบล่าสุดมาพร้อมกับการตีความใหม่ด้วยเทคโนโลยีไฟที่ทันสมัยของกระจังหน้าแนวตั้งอันเป็นเอกลักษณ์
  • จุดเด่นภายในห้องโดยสารประกอบด้วยการผสมผสานสวิตช์แบบสัมผัสได้และหน้าจอแบบดิจิทัล สามารถเปลี่ยนแทนกันได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่
  • ยนตรกรรมต้นแบบมาพร้อมกับเครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมกำหนดอนาคตของแกรนด์ทัวเรอร์ที่หรูหราและยั่งยืน

(ครูว์ 8 กรกฎาคม 2568) เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉม EXP 15 ยนตรกรรมต้นแบบพลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อ รุ่นล่าสุดที่นำเสนอแนวคิดการออกแบบสุดหรูหราจากสตูดิโอแห่งใหม่ สะท้อนวิสัยทัศน์เบนท์ลีย์ในอนาคตด้วยแรงบันดาลใจจากแกรนด์ทัวเรอร์ในอดีตในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ผ่านการตีความใหม่ให้ทันสมัยในศตวรรษที่ 21

รถยนต์ต้นแบบมาพร้อมตัวถังมาตรฐานขนาด 5 เมตร มีกระจังหน้าแนวตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ แนวหลังคาทอดยาวแบบไร้รอยต่อและห้องโดยสารด้านหลังที่ชวนให้นึกถึงยนตรกรรมแบบคูเป้ รุ่น Bentley Speed ​​Six Gurney Nutting Sportsman ในปี 2473 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "Blue Train" รถยนต์เบนท์ลีย์ที่มีชื่อเสียงรุ่นนี้มีความเกี่ยวข้องกับการแข่งขันระหว่างวูล์ฟ บาร์นาโต ประธานบริษัท และ "เบนท์ลีย์ บอย" ผู้มีชื่อเสียงในขณะนั้นกับรถไฟด่วนสุดหรู (Le Train Bleu) ที่วิ่งจากเมืองคานส์ทางตอนใต้ไปยังเมืองกาแลทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส

ยนตรกรรมต้นแบบรุ่นนี้ได้รวมเอาพื้นผิวภายนอกที่ทันสมัย รายละเอียดไฟที่ไฮเทค และองค์ประกอบด้านอากาศพลศาสตร์ที่ทำให้คล่องตัวเข้าไว้ด้วยกัน EXP 15 จึงสะท้อนทั้งยุคปัจจุบันและอนาคตที่มาพร้อมกับแนวคิดด้านการออกแบบรถยนต์เบนท์ลีย์รวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้

แนวทางการออกแบบภายในห้องโดยสารที่ล้ำสมัยได้รับการออกแบบด้วยซอฟต์แวร์เสมือนจริง (VR) ให้เห็นและสัมผัสถึงประสบการณ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยผสมผสานคุณสมบัติภายในห้องโดยสารแบบร่วมสมัย อาทิ เบาะโดยสารที่หรูหรา แผงหน้าปัดรูปปีกนก พวงมาลัย ปุ่มสัมผัส และสวิตช์ เข้ากับองค์ประกอบแบบดิจิทัลล้ำสมัยที่สามารถแสดงหรือซ่อนในพื้นหลังได้ตามความต้องการการใช้งานของผู้ขับขี่

การออกแบบภายในห้องโดยสารแบบสามที่นั่งและสามประตูห้องโดยสารจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับผู้โดยสาร พร้อมด้วยที่เก็บสัมภาระภายในห้องโดยสารสำหรับสัมภาระหรือสัตว์เลี้ยง โดยในขณะจอด พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถยังสามารถทำหน้าที่เป็นเบาะนั่งสำหรับนั่งพักผ่อนได้อีกด้วย

ยนตรกรรมต้นแบบขนาดมาตรฐานที่ผสมผสานความคลาสสิกและความทันสมัยด้วยดีไซน์ใหม่ที่น่าตื่นเต้น

แนวคิด EXP 15 สะท้อนถึงหลักการออกแบบภายนอก 5 ประการของเบนท์ลีย์ ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ในอนาคต หลักการแรก คือ “Upright Elegance” สะท้อนแนวคิดที่ว่าด้านหน้าของรถยนต์เบนท์ลีย์ทุกคันควรมีเส้นโค้งแนวตั้งที่สง่างามคล้ายกับลำตัวส่วนหน้าอกของม้าพันธุ์แท้เมื่อมองตัวรถจากด้านหน้าตรง

หลักการออกแบบภายนอกที่สำคัญประการที่สองคือ ‘กระจังหน้าแบบไอคอนิก’ ที่แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระบบส่งกำลังแบบพลังงานไฟฟ้า แต่ยังคงสะท้อนความสำคัญของภาพลักษณ์อันเก่าแก่ของแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเส้นแนวตั้งอยู่ตรงกลาง

หลักการออกแบบภายนอกประการที่สามคือ ‘Endless Bonnet Line’ สะท้อนถึงในอดีตที่รถยนต์เบนท์ลีย์ต้องติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดใหญ่ไว้ใต้ท้องรถ เส้นสายนี้ต่อเนื่องกันใต้กระจกข้างและด้านหลังไปจนถึงเสาหลังของตัวรถที่มีลักษณะคล้ายกับรถยนต์แบบคูเป้ รุ่น Gurney Nutting ในปี 2473 อันเก่าแก่ และเนื่องจากระบบส่งกำลังในอนาคตที่เปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้าที่ต้องการพื้นที่น้อยลง พื้นที่ว่างใต้ฝากระโปรงหลังของ EXP 15 จึงถูกปรับเปลี่ยนเป็นที่เก็บสัมภาระที่หรูหราสองช่อง โดยสามารถเข้าถึงได้ผ่านแผงคู่ฝาครอบเครื่องยนต์แบบบานพับสไตล์เปียโนเช่นเดียวกับรถยนต์แบบคูเป้ รุ่น Gurney Nutting

หลักการออกแบบภายนอกข้อที่สี่ ‘Resting Beast’ สัตว์ร้ายที่หลับใหล รถยนต์เบนท์ลีย์ทุกคันมีซุ้มล้อที่แสดงถึง ‘กล้ามเนื้อ’ และพละกำลังที่ซ่อนอยู่เฉกเช่นรูปทรงที่โค้งมนของต้นขาของเสือนักล่า

หลักการออกแบบภายนอกที่สำคัญประการที่ห้าและประการสุดท้ายถูกเรียกว่า 'Prestigious Shield' และใน EXP 15 นั้นเกี่ยวข้องกับพื้นผิวที่ใหญ่และสะอาดตา ในรถยนต์เบนท์ลีย์รุ่นคลาสสิกอย่าง Gurney Nutting coupe มีส่วนเก็บสัมภาระที่แยกจากตัวรถ แต่ในรุ่น EXP 15 นั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของฝากระโปรงท้ายรถ ซึ่งมีโลโก้เบนท์ลีย์แบบใหม่ตกแต่ง พร้อมด้วยกรอบไฟท้ายลวดลายเพชร 

สัดส่วนที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นเพื่อสร้างความโดดเด่น

พื้นผิวตัวถังของ EXP 15 ได้รับการออกแบบให้มีความโดดเด่นยังสะท้อนถึงรูปแบบของเบนท์ลีย์ในยุคใหม่ นักออกแบบและทีมงานได้ระบุคุณลักษณะสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ‘Monolithic Presence’ การแสดงออกทางด้านรูปลักษณ์ที่ส่วนประกอบต่างๆ ของรถดูเหมือนถูกรังสรรค์ขึ้นจากวัสดุเพียงก้อนเดียว ‘Muscular Form’ การสร้างพื้นผิวที่แข็งแรง บ่งบอกถึงพละกำลังที่ซ่อนอยู่ เฉกเช่นร่างกายของนักกีฬาหลังการฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วง และ ‘Carved Precision’ การเน้นการลดน้ำหนักเพื่อให้เห็นพื้นผิวที่ชัดเจน ขณะเดียวกันก็ยังคงความรู้สึกมั่นคงและแข็งแรง

เทคโนโลยีไฟส่องสว่างและแอโรไดนามิกรุ่นใหม่กับการยกระดับลวดลายเพชรอันเป็นเอกลักษณ์ขึ้นไปอีกขั้น 

นอกเหนือจากสัดส่วนและพื้นผิวของ EXP 15 แล้ว ภายนอกยังโดดเด่นด้วยรายละเอียดอันน่าประทับใจ ทั้งในด้านการใช้งานและความสวยงาม ไฟหน้าประกอบด้วยแถบบางเฉียบสี่แถบที่พาดผ่านด้านข้างตัวรถ โดยสองแถบบนตั้งฉากและสองแถบล่างโค้งเข้าด้านในในตำแหน่งซุ้มล้อเพื่อเน้นความโดดเด่นของตัวรถ ไฟเหล่านี้ยังล้อมกรอบกระจังหน้าขนาดใหญ่ มีแกนไฟตรงกลางที่ทอดยาวลงมาจากใต้โลโก้ Winged B เพื่อแบ่งช่องกระจังหน้าออกเป็นสองส่วน สะท้อนดีไซน์เบาะโดยสารลายเพชรอันเลื่องชื่อของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์ในแนวนอนที่นำมาถ่ายทอดเพื่อสื่อถึงลวดลายกระจังหน้าแบบดั้งเดิมในรูปแบบของไฟ LED ที่ทันสมัย

ด้านหลังซุ้มล้อหน้ามีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่สองช่องที่จะช่วยระบายอากาศ กระจายน้ำหนักตัวถัง และเพิ่มความน่าสนใจให้กับรูปลักษณ์ภายนอก ไฟท้ายที่เพรียวบางขึ้น ทอดยาวไปบนกรอบขนาดใหญ่ ‘Prestigious Shield’ ที่ยื่นออกมาเพื่อประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ เผยให้เห็นความลึกแบบ 3 มิติที่สวยงาม และการตีความลวดลายเพชรที่งดงามในอีกรูปแบบหนึ่ง องค์ประกอบด้านอากาศพลศาสตร์ยังมาพร้อมกับสปอยเลอร์คู่แบบแอคทีฟที่กางออกจากปลายหลังคาที่ลาดเอียงไปด้านหลัง และดิฟฟิวเซอร์แบบแอคทีฟที่ขอบล่างด้านหลังสุดของตัวรถ

ภายในห้องโดยสารแบบเสมือนจริงในรูปแบบ 3 ที่นั่งอันล้ำสมัย

การออกแบบห้องโดยสารอันล้ำสมัยของ EXP 15 ได้รับอิทธิพลมาจากภายในห้องโดยสารของรถยนต์เบนท์ลีย์ รุ่น Speed Six Gurney Nutting Sportsman ปี 2473 ที่ไม่ใช่แค่เพียงการจัดวางและรูปทรง แต่ทั้งในด้านจำนวนที่นั่งและฟังก์ชันการใช้งานสานต่อเจตนารมณ์ดังกล่าว EXP 15 จึงมาพร้อมที่นั่งแบบสามที่นั่ง และประตูด้านคนขับบานหนึ่งที่เปิดออกสู่เบาะคนขับ พร้อมด้วยเบาะโดยสารด้านหลังที่โอบล้อมแบบรังไหม ขณะที่ประตูแบบคู่และหลังคาแบบพาโนรามิกฝั่งผู้โดยสารสามารถเปิดขึ้นได้เพื่อช่วยให้เข้าออกได้สะดวกยิ่งขึ้นผ่านเบาะฝั่งผู้โดยสารอันหรูหราที่สามารถหมุนได้แบบ 45 องศา

เบาะโดยสารสามารถปรับตำแหน่งได้หลากหลายตามความต้องการของผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นการปรับเบาะนั่งคู่หน้าข้างคนขับในโหมด “Co-pilot” หรือเลื่อนไปเบาะโดยสารด้านหลังในโหมด “Standard” หรือปรับเอนในโหมด “Relax” การปรับเบาะโดยสารสองแบบหลังจะมีพื้นที่วางขากว้างขวางขึ้น พร้อมด้วยระบบจัดเก็บสัมภาระแบบ Concertina Floor Storage ที่จะช่วยให้สามารถพับที่วางเท้าลงบนพื้นรถเพื่อสร้างพื้นที่เล็กๆ สำหรับสัตว์เลี้ยงหรือสัมภาระติดตัวขนาดเล็ก โดยที่สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องหยุดรถและเปิดฝากระโปรงท้าย

พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถสามารถใช้งานได้มากกว่าแค่การบรรทุกสัมภาระ เมื่อเปิดฝากระโปรงท้าย เบาะขนาดเล็กสองที่นั่งสามารถกางออกได้ พร้อมด้วยโคมไฟและตู้เย็นที่สามารถเลื่อนจากเบาะหลังได้

ภายในห้องโดยสารผสมผสานธรรมชาติและคุณสมบัติทางกายภาพเข้ากับเทคนิคและเทคโนโลยีดิจิทัล

แผงหน้าปัดแบบ ‘Wing Gesture’ เป็นองค์ประกอบหลักสำคัญภายในห้องโดยสารของเบนท์ลีย์มาอย่างยาวนาน และถือเป็นหลักการออกแบบแรกจากทั้งหมดห้าประการของแบรนด์ โดยอ้างอิงจากรูปทรงของโลโก้ขนนก หลักการที่สองคือ ‘Bold Gravitas’ ซึ่งเน้นการใช้วัสดุหรูหราในพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่เพียงพอที่ลูกค้าจะสามารถมองเห็นและสัมผัสได้

แนวคิด “Cocooning Haven” คือ หลักการออกแบบตกแต่งภายในประการที่สามของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการเอาใจใส่ลูกค้าของเบนท์ลีย์สำหรับเบาะโดยสารด้านหน้าหรือด้านหลัง ซึ่งเบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารจะมีหลังคาคลุมด้านซ้ายที่โอบล้อมพนักพิงเบาะเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว องค์ประกอบที่สี่ “Iconic Details” อธิบายถึงองค์ประกอบของการตกแต่งภายในของรถยนต์เบนท์ลีย์ ตั้งแต่ช่องระบายอากาศแบบ “Bullseye” สวิตช์เกียร์แบบแบบสลักลายเพชรไปจนถึงเบาะโดยสารที่มีการปักลวดลายเพชร

ประสบการณ์ผู้ใช้เผยให้เห็นถึงเทคโนโลยีที่สามารถคาดการณ์ความต้องการของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารล่วงหน้าได้ 

หลักการออกแบบภายในข้อที่ห้าคือแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า “Magical Fusion” ซึ่งสะท้อนถึงเจตนารมณ์ของเบนท์ลีย์ที่ต้องการนำเสนอการผสมผสานระหว่างคุณสมบัติทางกายภาพและดิจิทัล เช่นเดียวกับการปรับปรุง “Rotating Dashboard” เดิมของเบนท์ลีย์ที่สามารถแสดงหน้าจออินโฟเทนเมนต์และหมุนกลับมายังพื้นผิวแผงหน้าปัดแบบวีเนียร์ โดยแผงหน้าปัดแบบเต็มของ EXP 15 สามารถทำหน้าที่เป็นอินเทอร์เฟซดิจิทัลสำหรับอินโฟเทนเมนต์ทุกประเภทหรือปิดและเผยให้เห็นพื้นผิววีเนียร์ภายใต้กระจกได้ นอกจากนี้ ด้านหลังหน้าจอยังมีการตกแต่งด้วยอุปกรณ์ลักษณะคล้ายนาฬิกาที่สามารถเคลื่อนไหวและเรืองแสงได้ โดยมีชื่อเรียกว่า “Mechanical Marvel” ที่สามารถระบุทิศทางในขณะเดินทาง สถานะการชาร์จไฟฟ้า และอื่นๆ อีกมากมาย

นวัตกรรมด้านวัสดุและสีจากผู้ผลิตวัสดุแบบดั้งเดิมในอังกฤษ

EXP 15 โดดเด่นด้วยสีเคลือบโลหะแบบซาตินที่เรียกว่า Pallas Gold ที่มีไฮไลท์สีขาวทอง โดยได้รับแรงบันดาลใจจากองค์ประกอบนิกเกิลบนรุ่น Bentley Speed Six ในตำนาน รวมถึงกระจังหน้าและมือจับประตู แต่สิ่งที่ทำให้สีนี้ดูทันสมัย คือ เม็ดสีอะลูมิเนียมใหม่ที่ทำให้สามารถใช้กับตัวถังด้านหน้าอุปกรณ์เรดาร์ความปลอดภัยได้ โดยยังคงสามารถส่งสัญญาณผ่านได้โดยไม่ทำให้คุณภาพของสัญญาณลดลง มากไปกว่านั้น คุณสมบัติการสะท้อนแสงที่สูงของสีเคลือบยังทำให้ระบบ Lidar ตรวจจับได้ง่ายเหมาะสำหรับการใช้งานด้วยระบบขับขี่แบบอัตโนมัติ

ส่วนของเทคโนโลยีเสมือนจริงภายใน EXP 15 ทีมออกแบบได้สร้างสรรค์สี่รูปแบบ โดยผสมผสานวัสดุแบบดั้งเดิมและแบบสมัยใหม่เข้าด้วยกัน ส่วนด้านท้ายของห้องโดยสาร นักออกแบบได้จินตนาการถึงการใช้ผ้าถักแบบแจ็คการ์ดชั้นดีเพื่อเสริมด้าน Well-being ที่ทอในหนึ่งในโรงงานที่เก่าแก่ที่สุดในสหราชอาณาจักรโดยบริษัท Gainsborough ของประเทศอังกฤษ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2446 และเป็นผู้จัดจำหน่ายผ้าให้กับสมเด็จพระราชินีนาถตั้งแต่ปี 2523 วัสดุธรรมชาติอันทรงคุณค่านี้ถูกตกแต่งอย่างลงตัวภายในห้องโดยสารเช่นเดียวกับตาข่ายโลหะทอละเอียดแบบใหม่ที่เรียกว่า 'Acrylic Couture' ที่ห่อหุ้มด้วยอะคริลิก เมื่อกระทบแสงจะสร้างเอฟเฟกต์แบบ 3 มิติอันเปล่งประกายภายในแผงหน้าปัด

 

 

บทสรุป: สมรรถนะและเทคโนโลยีสำหรับแกรนด์ทัวเรอร์แห่งศตวรรษที่ 21 ที่โดดเด่นและยั่งยืน

แม้ว่าแนวคิดการออกแบบจะโดดเด่นเหนือสิ่งอื่นใด แต่นักออกแบบ EXP 15 ได้คำนึงถึงระบบส่งกำลังที่จะนำไปสู่การเดินทางของยนตรกรรมแบบแกรนด์ทัวเรอร์ในศตวรรษที่ 21 กับความสะดวกสบายและสมรรถนะที่เหนือชั้น ด้วยเหตุนี้ EXP 15 จึงได้รับการออกแบบให้มีระบบส่งกำลังที่ขับเคลื่อนแบบสี่ล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่จะมอบพิสัยการเดินทางและความเร็วในการชาร์จที่มากพอๆกับความสะดวกสบายที่ลูกค้าจะได้รับจากรถยนต์เบนท์ลีย์ พร้อมด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ยังคงแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของงานดีไซน์อันละเอียดอ่อนที่เชื่อมโยงกับยนตรกรรมในตำนานรวมถึงการนำเสนอแนวคิดด้านดิจิทัลและเทคนิคภายในห้องโดยสารที่อาจกลายเป็นจริงได้ในอนาคต

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอพิเศษได้ที่ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้