Last updated: 7 พ.ย. 2568 | 2035 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจากเปิดจองสิทธิ์ล่วงหน้า (Pre-registration) ผ่านช่องทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2568 และได้รับการตอบรับจนครบ 2,000 สิทธิ์ ล่าสุดบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ NEW bZ4X – MOTION OF TRUST รถ D-SUV อเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้า รุ่น FWD (Front-wheel Drive) ราคาเริ่มต้น 1,529,000 บาท รุ่น AWD (All-wheel Drive) ราคา 1,649,000 บาท (เป็นราคาภายใต้มาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์ ระยะที่ 2 (EV3.5))

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า “นอกจาก NEW bZ4X จะเป็นรถที่มีมาตรฐานคุณภาพระดับโลกของแล้ว โตโยต้ายังมีระบบการจัดการชิ้นส่วนอะไหล่และเครือข่ายศูนย์บริการที่ครอบคลุม กับโชว์รูมและศูนย์บริการกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ เราจึงมั่นใจว่า NEW bZ4X จะมอบความอุ่นใจสูงสุดให้กับลูกค้า โดยมีเป้าหมายยอดขายที่ 6,000 คันในช่วงปีแรก สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ล่วงหน้าตั้งแต่เดือนสิงหาคม ทางบริษัทฯ จะเริ่มส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

ไฮไลต์ :

ที่ผ่านมา บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้แนะนำและเปิดรับจองสิทธิ์รถยนต์ไฟฟ้า BEV อเนกประสงค์ รุ่น NEW bZ4X ประกอบและนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ชูจุดแข็งเรื่องชิ้นส่วนอะไหล่และเครือข่ายศูนย์บริการกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ พร้อมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ เปิดรับจองสิทธิ์ผ่านช่องทางออนไลน์ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ณ Toyota ALIVE บางนา

bZ4X ใหม่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า BEV อเนกประสงค์ D-Segment ที่ตอบโจทย์คนที่กำลังมองหารถ SUV ขนาดใหญ่ โดยเมื่อปี 2565 โตโยต้าเคยแนะนำรถ BEV รุ่นแรกคือ bZ4X สู่ประเทศไทย ภายใต้มาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า EV3.0 ของรัฐบาลไทย แต่เนื่องจากขีดจำกัดด้านการจัดสรรจำนวนรถในเวลานั้น ทำให้ขายไปเพียง 132 คันเท่านั้น แต่สำหรับ bZ4X ใหม่จะนำเข้าจากญี่ปุ่นในรูปแบบ CBU และเข้าร่วมมาตรการ EV3.5 ด้วยเป้าหมายยอดขาย 6,000 คันในช่วงปีแรก

NEW bZ4X ไม่ได้เป็นเพียงการปรับโฉมผลิตภัณฑ์ในรูปแบบไมเนอร์เชนจ์ แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์อีกขั้น ด้วยดีไซน์การออกแบบที่สะดุดตาและน่าดึงดูด ใช้เวลาในการชาร์จเร็วขึ้น และที่สำคัญ ในรุ่นระบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ยังสามารถทำระยะการขับขี่ได้ถึง 600* กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ภายใต้มาตรฐาน NEDC ซึ่งไกลกว่ารถหลายรุ่นด้วยกัน พละกำลังสูงสุดได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และติดตั้งระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบมาตรฐานโตโยต้าในทุกรุ่นย่อย
หมายเหตุ * ข้อมูลระยะทางวิ่งสูงสุดอาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยอยู่ระหว่างการรับรองขั้นสุดท้าย

NEW bZ4X เป็นรถ EV ที่มีเสถียรภาพ (stability) ความรู้สึกในการควบคุมพวงมาลัย (steering feel) ความนุ่มนวล (riding comfort) และประสิทธิภาพการเบรกอยู่ในระดับ “สูงสุดในรถระดับเดียวกัน” และจะประกาศราคาอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนตุลาคม โดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป
นอกจากการที่ bZ4X มีมาตรฐานคุณภาพระดับโลกของโตโยต้าแล้ว ยังมีระบบการจัดการชิ้นส่วนอะไหล่และเครือข่ายศูนย์บริการที่ครอบคลุม กับโชว์รูมและศูนย์บริการกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ
สำหรับผู้สนใจเลือกเป็นเจ้าของ NEW bZ4X ใน 2 รุ่นย่อย 6 สีภายนอกจับคู่กับสีภายใน ดังนี้
สี Mono-tone 3 สี
• สีภายนอก Precious Metal | สีภายใน Black
• สีภายนอก Platinum White Pearl | สีภายใน Black
• สีภายนอก Attitude Black Mica | สีภายใน Light Gray
สี Two-tone (Black Roof) ราคาเพิ่ม +20,000 บาท
• สีภายนอก Precious Metal / Black Roof | สีภายใน Black
• สีภายนอก Platinum White Pearl / Black Roof | สีภายใน Black
• สีภายนอก Emotional Red 2 / Black Roof | สีภายใน Black

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ Toyota bZ4X รุ่นใหม่

รุ่น FWD
ดีไซน์ภายนอก
• ด้านหน้าดีไซน์ Hammerhead พร้อม Center Lamp
• ไฟหน้า Full LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน
• ไฟท้าย Full LED
• ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วและซุ้มล้อสีดำเงา

ดีไซน์ภายใน
• ภายในกว้างขวาง สะดวกสบาย ด้วยหลักการออกแบบ Open & Relax
• บริเวณที่นั่งผู้ขับขี่ออกแบบสไตล์ Cockpit ช่วยลดการละสายตา มอบทัศนวิสัยดีเยี่ยม
• หลังคา Panoramic Moonroof พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า
• ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ปรับได้ 64 เฉดสี (บริเวณคอนโซลหน้าและบริเวณมือจับประตูด้านใน)

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
• เบาะนั่งคู่หน้า ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่
• จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่จอสี ขนาด 7 นิ้ว
• หน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto
• ลำโพง 6 ตำแหน่ง
• อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless charger 2 ตำแหน่ง
• ประตุท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบฟ้าไฟฟ้า พร้อม Kick Activated
• ระบบปรับอากาศ NanoeTM X และระบบกรองฝุ่น PM2.5 ภายในห้องโดยสาร
• สวิตซ์ควบคุมเกียร์แบบ Shift-by-Wire
• ระบบเบรกมือแบบไฟฟ้า (EPB) พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (ABH)
• ช่องปรับอากาศตอนหลัง พร้อมพัดลมจากใต้เบาะและพนักพิง และเชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า Fast Charge USB Type-C (60W) 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
• กระจกมองหลังแบบดิจิทัล
• ระบบเชื่อมต่อ T-connect
• สายชาร์จแบบพกพา

เทคโนโลยีแบตเตอรี่ และการชาร์จ
• แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุสูงสุด 73.11 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
• รองรับหัวชาร์จแบบ AC Type 2 กำลังสูงสุด 22 กิโลวัตต์
(สำหรับการชาร์จไฟแบบ AC 3 เฟส ด้วยกระแสสูงสุด 32 แอมป์ต่อเฟส รวมสูงสุด 96 แอมป์)
• รองรับหัวชาร์จแบบ DC CCS2 กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์
• ระยะทางวิ่งสูงสุด 600 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 100%
(อ้างอิง Eco Sticker มาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ มีผู้ขับขี่ 1 คน ใช้มาตรฐานการขับแบบ NEDC อุณหภูมิ 20 – 30 °C ปิดระบบปรับอากาศ รับรองผลโดยหน่วยงานรัฐบาลประเทศเบลเยียม)
• ระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่ โดยใช้ระบบหล่อเย็นร่วมกับระบบปรับอากาศ โดยมีวงจรแยกจากกันกับระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสาร
สมรรถนะการขับขี่ | ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า | ระบบพวงมาลัยและช่วงล่าง
• e-TNGA Platform โครงสร้างที่ออกแบบ มาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ของโตโยต้าโดยเฉพาะ
- จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทรงตัวดี
- คล่องตัวในการขับขี่ ควบคุมได้อย่างมั่นใจ
- แบตเตอรี่จัดวางภายใต้โครงสร้างที่แข็งแรง ลดความเสี่ยง จากการกระแทกที่แบตเตอรี่โดยตรง
• ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า Front-wheel Drive พร้อมระบบส่งกำลัง e-Axle ส่งแรงขับไปยังเพลารถโดยตรง
• กำลังสูงสุดรวม 165 กิโลวัตต์ (224 PS / 221 HP)
• แรงบิดสูงสุดชุดมอเตอร์หน้า 269 นิวตันเมตร
• ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบดับเบิลวิชโบนพร้อม เหล็กกันโคลง
• แป้นควบคุมแรงหน่วงเบรก (Paddle Shift) เลือกระดับการลดความเร็วได้ 4 ระดับ ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และ ความสะดวกสบายในการขับขี่
• ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (EPS)
• ระบบเบรกแบบดิสก์เบรก ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
• เพิ่มวัสดุลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร เช่น กระจกคู่หน้าแบบ Acoustic, วัสดุโฟมที่โครงตัวถัง, ท่อเก็บ เสียง ซุ้มล้อในห้องโดยสาร, เพิ่มประสิทธิภาพการซีลของกระจกบานหลัง เป็นต้น

ระบบความปลอดภัย | ระบบช่วยเหลือขณะขับขี่ | ระบบช่วยจอดรถ
• ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense
- ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ พร้อมช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน และช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ ขณะเข้าโค้ง (DRCC)
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PCS)
- ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (LDA)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) พร้อมระบบควบคุมไฟสูงอัจฉริยะ (AHS)
• ถุงลมเสริมความปลอดภัย 8 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้างคู่หน้า, ม่านด้านข้าง, ตรงกลางด้านหน้า และหัวเข่าด้านผู้ ขับ)
• กล้องมองรอบคัน (PVM)
• ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Intelligent Parking Assist)
• ระบบช่วยเตือน พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ (PKSB)
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM)
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (RCTA)
• ระบบแจ้งเตือนลมยาง (TPMS)
• สัญญาณเตือนกะระยะ ด้านหน้า 4 ตำแหน่ง และด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
• ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบเสริมแรงเบรก (BA)
• ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC)
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAC)
• ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
• ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
รุ่น AWD (เฉพาะสิ่งที่แตกต่างจากรุ่น FWD)

ดีไซน์ภายนอก
• ตราสัญลักษณ์ AWD ที่ด้านหลัง
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
• ลำโพง 9 ตำแหน่ง พร้อมระบบเครื่องเสียง JBL
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ และการชาร์จ
• ระยะทางวิ่งสูงสุด 570 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 100%
(อ้างอิง Eco Sticker มาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ มีผู้ขับขี่ 1 คน ใช้มาตรฐานการขับแบบ NEDC อุณหภูมิ 20 – 30 °C ปิดระบบปรับอากาศ รับรองผลโดยหน่วยงานรัฐบาลประเทศเบลเยียม)

สมรรถนะการขับขี่ | ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า | ระบบพวงมาลัยและช่วงล่าง
• ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ All-wheel Drive
• กำลังสูงสุดรวม 252 กิโลวัตต์ (343 PS / 338 HP)
• แรงบิดสูงสุดชุดมอเตอร์หน้า 269 นิวตันเมตร และชุดมอเตอร์หลัง 170 นิวตันเมตร
• X-MODE โหมดควบคุมการขับขี่แบบออฟโรด เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน ทำงานควบคู่ฟังก์ชัน Grip Control ช่วยรักษาความเร็วให้คงที่ในระดับต่ำ เมื่อขับขี่บนเส้นทางที่ท้าทาย
- SNOW/DIRT ลดกำลังของมอเตอร์ เพื่อลดการลื่นไถลของล้อ
- DEEP SNOW/MUD เพิ่มกำลังให้กับล้อ และควบคุมการยึดเกาะ
เทคโนโลยี T-CONNECT พร้อมบริการเสริมที่หลากหลาย Always Located & Protected ให้คุณอุ่นใจ ไร้กังวลในการเดินทาง
• Battery Remaining ตรวจสอบปริมาณแบตเตอรี่ไฟฟ้าคงเหลือ
• Charging Station ค้นหาและนำทางไปยังสถานีชาร์จทั่วประเทศ
• Find My Car บริการเช็กตำแหน่งรถเรียลไทม์
• TheftTrack ติดตามรถหาย
• SOS ช่วยเหลือฉุกเฉิน
• Geo-Fencing กำหนดขอบเขตปลอดภัย

Telematics Care ดูแลรถได้ง่ายๆ สะดวก พร้อมออกเดินทาง
• TCFR Plus+ สิทธิ์ขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์ พร้อมระดับสิทธิประโยชน์อื่นๆที่มากขึ้น ตามการเช็กระยะ ต่อเนื่องตามกำหนด
• Maintenance Reminder แจ้งเตือนการบำรุงรักษา
• Vehicle Information ข้อมูลรถและการขับ
• PHYD Insurance ประกันภัย “ขับดี ลดให้”
Happiness Mobility บริการเติมเต็มความสุข ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์
• Toyota Alive-X โปรแกรมสะสมคะแนน The 1 ใช้แลกเป็นส่วนลดในการเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการโตโยต้า
• Connect You บริการแจ้งสิทธิพิเศษที่คัดสรรสำหรับลูกค้า T-Connect
• Concierge Services บริการผู้ช่วยส่วนตัว
มั่นใจได้ในระยะยาวไปกับการรับประกันจากโตโยต้า
• รับประกันแบตเตอรี่ไฟฟ้า และการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ไฟฟ้า 8 ปี หรือ 160,000 กม.
(นับจากวันส่งมอบรถยนต์ แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และมีความจุแบตเตอรี่ขั่นต่ำ 70%)
• รับประกันคุณภาพตัวรถ TCFR Plus+ 5 ปี หรือ 150,000 กม.
(นับจากวันส่งมอบรถยนต์ แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนดจากโปรแกรม TCFR Plus+)
• มั่นใจกับบริการหลังการขายด้วยศูนย์บริการกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ
(ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2568)
• บริการโดยช่างที่ผ่านการอบรมด้านรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ตามมาตรฐานโตโยต้า
ข้อเสนอพิเศษสูงสุด! [7 พ.ย. – 31 ธ.ค. 2568]
ลูกค้าจากกิจกรรม NEW bZ4X Pre-registration
• ส่วนลดเงินสด มูลค่า 20,000 บาท*
• ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%*
ลูกค้าทั่วไป รับฟรี ประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD*
พร้อมลุ้นรับสูงสุด 3 ต่อ จากกิจกรรม “TOYOTA อาริกาโตะ โปรแจกใหญ่จัดเต็ม”*
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.toyota.co.th/yearend2025