X

EV แซง! ยอดขายรถยนต์ ก.ย. 2568 เก๋ง BEV โต 99% แซงรถสันดาปหวิว!!

Last updated: 23 ต.ค. 2568  |  169 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ยอดขายรถยนต์ ก.ย. 2568 เก๋ง BEV โต 99% แซงรถสันดาปหวิว

ส.อ.ท. เปิดตัวเลขยอดขายรถยนต์ ก.ย. 2568 มีทั้งสิ้น 48,350 คัน ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ายังเติบโตดีเพราะหลายรุ่นมีราคาเข้าถึงง่าย รวมทั้งเทคโนโลยีที่ติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้าน่าสนใจมากขึ้น ทำให้รถยนต์นั่งไฟฟ้า 100% หรือ BEV กวาดยอดขายไป 9,107 คัน คิดเป็น 18.84% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 99% ขณะที่รถยนต์นั่งสันดาปภายใน (ICE) มียอดขาย 9,065 คัน หรือ 18.75% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 22.08%

ไฮไลต์สำคัญ :

  • ยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์รวม 3 ไตรมาส หรือ 9 เดือนแรกของปี 2568 ตั้งแต่ ม.ค.-ก.ย. 2568 รถยนต์นั่งประเภทสันดาปภายใน (ICE) มี 97,287 คัน หรือ 21.72% ของยอดขายทั้งหมด BEV มี 81,351 คัน หรือ 18.16%
  • PHEV มี 6,803 คัน หรือ 1.52% และเก๋ง HEV มี 102,370 คัน หรือ 22.85%
  • 9 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค. – ก.ย. 2568) มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสม 104,571 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายนปีที่แล้ว 38.49% เป็น เป็นรถยนต์นั่ง 84,575 คัน
  • ยอดจดทะเบียนสะสมยานยนต์ประเภท BEV ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568 มี 330,301 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 59.85% ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่ง มี 239,492 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ถึง 69.81%
  • ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป รวม 3 ไตรมาส หรือ 9 เดือนแรกของปี 2568 ตั้งแต่ ม.ค.-ก.ย. 2568 มี 689,031 คัน เป็นรถกระบะ BEV 276 คัน รถยนต์นั่ง BEV 3,057 คัน รถยนต์นั่ง PHEV 747 คัน รถยนต์นั่ง HEV 38,283 คัน



นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์  ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนกันยายน 2568 เมื่อวันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2568 โดยมียอดผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 6,410 คัน เพิ่มขึ้น 332.81% ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 9,155 คัน เพิ่มขึ้น 100.15% ยอดส่งออกรถยนต์นั่งไฟฟ้า 967 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 100% ส่งออกรถกระบะไฟฟ้า 41 คัน เพิ่มขึ้น 100%

การผลิต
รถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนกันยายน 2568 มีทั้งสิ้น 128,104 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2568 ร้อยละ 14.01 และเพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 4.77 จากการผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้าชดเชยการนำรถยนต์นั่งไฟฟ้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศปี พ.ศ. 2565 - 2566 และผลิตรถกระบะดัดแปลง PPV เพื่อส่งออกและจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นจากการออกรุ่นใหม่ของบางบริษัท ส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์รุ่นนี้เติบโตร้อยละ 29.95


รถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - กันยายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,075,801 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กันยายน 2567 ร้อยละ 4.63

รถยนต์นั่ง เดือนกันยายน 2568 ผลิตได้ 49,473 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 2.39 ผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกลดลงร้อยละ 26.49 จากการเลิกผลิตบางรุ่นเพื่อเปลี่ยนรุ่นใหม่ให้ตอบรับกฎข้อบังคับของประเทศคู่ค้า แบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine (ICE)  มี 21,761 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 36.38
  • รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle (BEV) มี 6,375 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 330.45
  • รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) มี 3,474 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 527.08
  • รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle (HEV)  มี 17,863 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 23.66

ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2568 มี 395,713 คัน เท่ากับร้อยละ 36.78 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม - กันยายน 2567 ร้อยละ 7.27 แบ่งเป็น


  • รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine (ICE) จำนวน 184,320 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กันยายน 2567 ร้อยละ 31.56
  • รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle (BEV) มี 41,183 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2567 ร้อยละ 461.23
  • รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV)  มี 15,802 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2567 ร้อยละ 246.00
  • รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle (HEV)  มี 154,408 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2567 ร้อยละ 6.13

ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนกันยายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 48,350 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 23.82 จากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังเติบโตดีเพราะหลายรุ่นมีราคาที่ถูกลงจนสามารถซื้อได้มากขึ้นรวมทั้งเทคโนโลยีที่ติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้าน่าสนใจมากขึ้น แต่รถกระบะยังคงขายลดลงร้อยละ 4.00 จากการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะหลักฐานการเงินอ่อนแอจากเศรษฐกิจในประเทศที่ขยายเติบโตในอัตราต่ำ ค่าครองชีพสูง และดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงติดลบ

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 31,722 คัน เท่ากับร้อยละ 65.61 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 40.87


  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 9,065 คัน เท่ากับร้อยละ 18.75 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 22.08
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 9,107 คัน เท่ากับร้อยละ 18.84 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 99.10
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 637 คัน เท่ากับร้อยละ 1.32 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 223.35
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) 149 คัน เท่ากับร้อยละ 0.31 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 100
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 12,764 คัน เท่ากับร้อยละ 26.40 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 108.73
 

รถกระบะมีจำนวน 11,049 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 4.00 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มี 48 คัน ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถกระบะ REEV มีจำนวน 7 คัน ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 3,250 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 31.95 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,321 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 5.84 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 953 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 17.42



ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2568 รถยนต์มียอดขาย 477,969 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 2.12 แยกเป็น
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 288,391 คันเท่ากับร้อยละ 64.44 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 9.87

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 97,287 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 17.47
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 81,351 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 55.79
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 6,803 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 311.55
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) 580 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 100
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 102,370 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 12.82

รถกระบะมีจำนวน 106,603 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 15.77 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 534 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถกระบะ REEV มีจำนวน 13 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 31,360 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 16.39 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 11,048 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 10.27

 

การส่งออก
รถยนต์สำเร็จรูป 
เดือนกันยายน 2568 ส่งออกได้ 86,056 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 20.90 และเพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 7.23 เพิ่มขึ้นจากการส่งออกรถกระบะเพิ่มขึ้น รวมทั้งรถกระบะดัดแปลง PPV ที่มีบางบริษัทออกรุ่นใหม่และส่งออกเป็นครั้งแรก รถยนต์นั่งไฟฟ้าและรถกระบะไฟฟ้าส่งออกเพิ่มขึ้น แต่รถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภายในส่งออกลดลงร้อยละ 16.97 ส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้
ประเภทรถยนต์ส่งออกเดือนกันยายน 2568 แบ่งเป็น ดังนี้

  • รถกระบะ 49,082 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 57.03 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 5.29
  • รถกระบะ BEV 41 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.05 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
  • รถยนต์นั่ง ICE 16,597 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 19.29 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 16.97
  • รถยนต์นั่ง BEV 967 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 1.12 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
  • รถยนต์นั่ง PHEV 430 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.50 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
  • รถยนต์นั่ง HEV 4,585 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 5.33 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 62.70
  • รถ PPV 14,354 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 16.68 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 32.51


รถยนต์สำเร็จรูป
เดือนมกราคม – กันยายน 2568 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 689,031 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 10.39 แบ่งเป็น
  • รถกระบะ 427,571 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 62.05 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 2.97
  • รถกระบะ BEV 276 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.04 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
  • รถยนต์นั่ง ICE 118,157 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 17.15 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 37.52
  • รถยนต์นั่ง BEV 3,057 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.66 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
  • รถยนต์นั่ง PHEV 747 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 2.64 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
  • รถยนต์นั่ง HEV 38,283 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 5.56 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 2.01
  • รถ PPV 100,940 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 14.65 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 0.63
 


ภาพ : สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน (แนวทางการเก็บตัวเลขอาจแตกต่างกัน)


ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนกันยายน 2568 
เดือนกันยายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 11,906 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายนปีที่แล้วร้อยละ 80.23 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 9,783 คัน ส่วนใหญ่เป็น รถยนต์นั่ง มี 9,387 คัน รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน 387 คัน ฯลฯ
  • รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 22 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 22.22
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 2,050 คัน ทั้งหมดเป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
  • รถยนต์สามล้อ 1 คัน
  • รถโดยสาร 13 คัน ลดลงจากเดือนกันยายนปีที่แล้วร้อยละ 32.73
  • รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 37 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายนปีที่แล้วร้อยละ 80.23
 

เดือนมกราคม - กันยายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสม 104,571 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายนปีที่แล้วร้อยละ 38.49 โดยแบ่งเป็น


รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 86,819 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2567 ร้อยละ 59.86 แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 84,575 คัน รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน 2,060 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 15 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 169 คัน
รถกระบะ รถแวน 449 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กันยายน 2567 ร้อยละ 11.79
รถยนต์สามล้อมีทั้งสิ้น 16 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กันยายน 2567 ร้อยละ 88.65 แบ่งเป็นรถยนต์สามล้อส่วนบุคคล 12 คัน รถยนต์รับจ้างสามล้อ 4 คัน
รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 16,883 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กันยายน 2567 ร้อยละ 15.81 เป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล 16,882 คันรถจักรยานยนต์สาธารณะ 1 คัน

รถโดยสารมี 102 คัน ลดลงเดือนมกราคม - กันยายน 2567 ร้อยละ 63.70
รถบรรทุก 302 คัน เพิ่มขึ้นเดือนมกราคม - กันยายน 2567 ร้อยละ 41.78
 


ภาพประกอบ : สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน (แนวทางการเก็บตัวเลขอาจแตกต่างกันเล็กน้อย)


ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนกันยายน 2568 
เดือนกันยายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 11,629 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายนปีที่แล้วร้อยละ 23.67 โดยแบ่งเป็น


รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 11,565 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 23.32 เกือบทั้งหมดเป็น รถยนต์นั่ง มี 11,542 คัน


เดือนมกราคม - กันยายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสม 106,332 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายนปีที่แล้วร้อยละ 2.05 โดยแบ่งเป็น


รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 105,574 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กันยายน 2567 ร้อยละ 1.72 ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่ง มี 105,277  คัน
รถจักรยานยนต์มี 758 คัน เป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลทั้งหมด

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนกันยายน 2568 
เดือนกันยายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่ 1,355 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายนปีที่แล้วร้อยละ 84.60 เป็นรถยนต์นั่งทั้งหมด


เดือนมกราคม - กันยายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสม 15,036 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายนปีที่แล้วร้อยละ 105.69 เกือบทั้งหมดเป็นรถยนต์นั่ง


ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 30 กันยายน 2568
ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 330,301 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 59.85 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มี 245,707 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 70.97 แยกเป็น รถยนต์นั่ง 239,492 คัน รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน 4,588 คัน รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 1,149 คัน
  • รถกระบะและรถแวน 1,321 คัน
  • รถยนต์ 3 ล้อ 1,035 คัน เป็นรถยนต์รับจ้างสามล้อ 909 คัน
  • รถจักรยานยนต์ 78,273 คัน เกือบทั้งหมดเป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล 


ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 30 กันยายน 2568


ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีทั้งสิ้น 574,293 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 28.53 แยกเป็น รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ 564,362 คัน

 


ภาพประกอบ : สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน (แนวทางการเก็บตัวเลขอาจแตกต่างกันเล็กน้อย)


ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 30 กันยายน 2568
ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 78,059 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 27.65 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้ ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่ง  77,981 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 27.68

อ่านข้อมูลฉบับเต็ม คลิก https://www.fti.or.th/News/details?id=1011


ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้