X

การ์ทเนอร์คาดปี 2569 จะมีรถ EV วิ่งบนถนน 116 ล้านคัน จีนจะเป็นผู้นำตลาด 61%

Last updated: 11 ธ.ค. 2568  |  130 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การ์ทเนอร์คาดปี 2569 จะมีรถ EV วิ่งบนถนน 116 ล้านคัน จีนจะเป็นผู้นำตลาด 61%

การ์ทเนอร์คาดการณ์ปี 2569 จะมีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 116,179,563 คันโลดแล่นบนถนน ขณะที่ภาพรวมในปี 2568 จะมีจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด ราว 89,554,951 คัน จีนจะเป็นผู้นำตลาด 61% และรถ PHEV จะเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับปีก่อน 

กรุงเทพฯ ประเทศไทย 11 ธันวาคม 2568 — การ์ทเนอร์ อิงค์ บริษัทชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจและเทคโนโลยี คาดการณ์ว่าภายในปี 2569 ว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) 116 ล้านคัน ประกอบด้วยรถยนต์ รถบัส รถตู้ และรถบรรทุกหนักวิ่งอยู่บนถนนทั่วโลก

Jonathan Davenport ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์การ์ทเนอร์กล่าวว่า "แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศใช้อัตราภาษีศุลกากรสำหรับการนำเข้ารถยนต์ และหลายรัฐบาลในประเทศต่าง ๆ ยกเลิกเงินอุดหนุนและสิ่งจูงใจเพื่อการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า แต่คาดว่าในปี 2569 จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนจะยังเพิ่มขึ้นถึง 30% และในปีหน้านี้ จีนจะยังเป็นผู้นำตลาด คิดเป็น 61% ของปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด คาดว่ารถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากลูกค้าให้ความสำคัญกับความมั่นใจที่มีเครื่องยนต์เบนซินสำรองไว้ใช้ในยามที่ต้องการ"



คาดว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ (BEV) จะมีจำนวนเกินครึ่งของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด แต่ก็ยังมีลูกค้าที่เลือกรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่มากขึ้น

 ปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าแบ่งตามประเภทรถยนต์ ทั่วโลก ระหว่างปี 2568-2569 (หน่วยตามจริง)

  • รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ในปี 2568 มีจำนวนทั้งหมดอยู่ที่ 59,480,370 คัน ส่วนในปี 2569 คาดเพิ่มขึ้นเป็น 76,344,452 คัน
  • รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ในปี 2568 มีจำนวนทั้งหมดอยู่ที่ 30,074,582 คัน ส่วนในปี 2569 คาดเพิ่มขึ้นเป็น 39,835,111 คัน
  • ภาพรวม ในปี 2568 นี้ จะมีจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด ราว 89,554,951 คัน ส่วนในปีหน้าคาดกว่าจะเพิ่มเป็น 116,179,563 คัน
     

ที่มา: การ์ทเนอร์ (ธันวาคม 2568)
 

ข้อมูลเพิ่มเติมจากรายงานการคาดการณ์

  • การเปลี่ยนแปลงตลาดระดับภูมิภาคที่รวดเร็ว: ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในจีนเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่การคาดการณ์ครั้งก่อน โดยการแข่งขันที่สูงขึ้นทำให้ราคาจากผู้ผลิตในประเทศลดลง ส่งผลให้อุปสงค์ในปี 2569 เพิ่มขึ้นจาก 13.4 ล้านคัน เป็น 16.5 ล้านคัน รวมถึงแผนการลงทุนเพิ่มเติมในโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นอีกปัจจัยหนุน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงเพื่อลดระดับการให้ส่วนลดของผู้ผลิต และกำลังลดจำนวนเงินอุดหนุนลง ขณะที่ในตลาดสหรัฐฯ อุปสงค์ลดลงเนื่องจากรัฐบาลประกาศใช้อัตราภาษีศุลกากรสำหรับการนำเข้ารถยนต์ และยกเลิกเงินอุดหนุนรวมถึงสิ่งจูงใจสำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า
  • เทคโนโลยีที่ผสมผสาน: รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ยังครองสัดส่วนเกินกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด แต่การ์ทเนอร์ได้ปรับลดตัวเลขการคาดการณ์ในปี 2569 จากเดิม 77% ลงเป็น 63% อันเนื่องมาจากการนำรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่มาใช้นั้นช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม เราพบว่ามีลูกค้าที่เลือกรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เพิ่มขึ้นมากขึ้น โดยให้ความสำคัญและมั่นใจกับการมีเครื่องยนต์เบนซินสำรองไว้ใช้ในยามที่จำเป็น เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำอย่าง BYD จึงให้ความสำคัญกับการนำเสนอและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในหมวด PHEV รวมถึงรถยนต์ในหมวดย่อยเล็ก ๆ อื่น ๆ ที่กำลังเติบโตเข้าไปอยู่ในกลุ่ม PHEV อีกประเภทหนึ่งนั่นคือรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์เบนซินเพื่อจ่ายไฟให้กับเครื่องปั่นไฟเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ โดยรถยนต์แบบขยายระยะทางการขับขี่ (Range Extender) เหล่านี้มีเพียงระบบส่งกำลังไฟฟ้าเท่านั้น แต่สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ราบรื่นและสม่ำเสมอมากขึ้น
  • กฎระเบียบปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ: ผู้ผลิตรถยนต์กำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเพื่อตอบสนองต่อแรงกดดันด้านกฎระเบียบจากรัฐบาลที่มีความกังวลเกี่ยวกับทั้งคุณภาพอากาศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มากกว่าอุปสงค์โดยตรงจากผู้บริโภค รัฐบาลหลายประเทศส่งสัญญาณแล้วว่าจะค่อย ๆ ยกเลิกรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) โดยไม่อนุมัติรถยนต์ใหม่ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนประเภทนั้น วัตถุประสงค์เบื้องหลังการตัดสินใจนี้ คือ เพื่อลดฝุ่นละออง (PM) และการปล่อยก๊าซ CO2 จากรถยนต์ การปล่อยฝุ่น PM จากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ถูกมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อทั้งคุณภาพอากาศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


เกี่ยวกับการ์ทเนอร์

บริษัท การ์ทเนอร์ (Gartner, Inc.) (NYSE: IT) คือบริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำของโลก มอบข้อมูลเชิงลึก คำแนะนำ และเครื่องมือต่าง ๆ แก่ผู้บริหารองค์กรธุรกิจ เพื่อรองรับการดำเนินภารกิจสำคัญที่มีอยู่ในปัจจุบันและสร้างองค์กรให้ประสบความสำเร็จในอนาคต ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางของการ์ทเนอร์ในการช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจอย่างถูกต้องเพื่อขับเคลื่อนอนาคตของธุรกิจได้ที่ gartner.com

 

 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้