X

MEA จับมือ กปน.เซ็นเอ็มโอยูติดตั้ง 5 สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่สำนักงานการประปานครหลวง

Last updated: 28 ธ.ค. 2566  |  3766 จำนวนผู้เข้าชม  | 

MEA จับมือ กปน.เซ็นเอ็มโอยูติดตั้ง 5 สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่สำนักงานการประปานครหลวง

การไฟฟ้านครหลวง จับมือ การประปานครหลวง ลงนามเอ็มโอยู เข้าร่วมโครงการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงมหาดไทย “มหานครสดใส ชาร์จไฟ กับ กฟน.” ติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 5 สถานี ในสำนักงานประปาสำนักงานใหญ่ สำนักงานสาขาบางบัวทอง ภาษีเจริญ มีนบุรี และสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2566

นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า กปน. เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดมลพิษทางอากาศที่เกิดจากภาคขนส่ง และฝุ่นละออง PM 2.5 ที่มาจากไอเสียรถยนต์ ซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกตามนโยบายของรัฐบาล การลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการความร่วมมือกับ MEA ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ มีหน้าที่ดูและระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ โดยจะนำร่องติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า จำนวน 5 สถานี


สถานที่ติดตั้งสถานีชาร์จทั้ง 5 แห่ง ประกอบด้วยสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำนักงานใหญ่ 4 จุด สำนักงานประปาสาขาบางบัวทอง 2 จุด สำนักงานประปาสาขาภาษีเจริญ 2 จุด สำนักงานประปาสาขามีนบุรี 2 จุด และสำนักงานประปาสาขาสุวรรณภูมิ 2 จุด หากการติดตั้งเสร็จสิ้น จะทำให้สถานีบริการอัดประจุไฟฟ้ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และเป็นการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของประชาชนทั่วไป พนักงาน และผู้ปฏิบัติงานของ กปน. เพิ่มขึ้น


นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (MEA) กล่าวว่า การไฟฟ้านครหลวงในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ได้ขับเคลื่อนส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองวิสัยทัศน์พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร รวมถึงการเตรียมพร้อมรองรับการใช้งาน EV ในพื้นที่ของ MEA ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่า 6.6 ล้านคน ภายในปี 2580 การบูรณาการความร่วมมือกับ กปน. ครั้งนี้ เป็นการพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ในพื้นที่สำนักงานของ กปน. ถือเป็นการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของประชาชนให้ครอบคลุมมากขึ้น


เมื่อแผนงานติดตั้งในโครงการครั้งนี้แล้วเสร็จ MEA จะมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งสิ้น 168 หัวชาร์จ และมีแผนที่จะขยายจำนวนหัวชาร์จไปจนถึงปี 2570 รวมทั้งสิ้น 600 หัวชาร์จ เพื่อรองรับการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต สำหรับในด้านนโยบายที่เกี่ยวข้องกับ EV นั้น MEA ได้นำระบบบริหารจัดการอัดประจุไฟฟ้า หรือ “Smart Charging” ควบคู่กับกับเทคโนโลยีบริหารจัดการใช้งานหม้อแปลงจำหน่าย (TLM) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี Smart Grid มาใช้ลดปัญหาการเกิด Overload ช่วยให้บริหารจัดการระบบจำหน่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


ขณะเดียวกันยังได้มีพัฒนาด้าน IT เช่น การจัดทำ MEA EV Application สำหรับการใช้งาน Charging Station ครอบคลุมทั้งฟังก์ชันการค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้า และการจ่ายค่าบริการ ทั้งยังมีการเชื่อมโยงข้อมูลข้ามเครือข่าย หรือ “EV Data Roaming” กับผู้ประกอบการรายใหญ่ต่าง ๆ ทำให้สามารถชาร์จข้ามเครือข่ายได้ในอนาคต เพิ่มความสะดวกสบายให้กับประชาชนผู้ใช้งานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ MEA ยังตระหนักถึงประเด็นด้านความปลอดภัย ในการใช้งานสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า จึงให้บริการทดสอบด้านความปลอดภัย เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ประชาชนที่ใช้งาน EV Charging Station ทำให้การใช้งาน EV มีการขยายตัวได้อย่างยั่งยืน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้