X

กทท.สัมมนา“โครงการการพัฒนา Sustainable Development Goals (SDGs) เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2573

Last updated: 9 มี.ค. 2567  |  449 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กทท.สัมมนา“โครงการการพัฒนา Sustainable Development Goals (SDGs) เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2573

กทท.จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “โครงการการพัฒนา Sustainable Development Goals (SDGs) สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของการท่าเรือแห่งประเทศไทย” มุ่งสู่มาตรฐานท่าเรือชั้นนำระดับโลก ให้บริการโลจิสติกส์เป็นเลิศ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2573

สถาบันด้านการขนส่งทางน้ำและโลจิสติกส์ (Maritime Logistics Institute : MLI) การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “โครงการการพัฒนา Sustainable Development Goals (SDGs) สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของการท่าเรือแห่งประเทศไทย” นำเสนอความรู้ที่สำคัญ พร้อมผลักดันให้ทุกภาคส่วนร่วมกันพัฒนาเพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่ยั่งยืนตามนโยบายของประเทศและสหประชาชาติ

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. เป็นประธานเปิดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “โครงการการพัฒนา Sustainable Development Goals (SDGs) สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของการท่าเรือแห่งประเทศไทย” จัดขึ้นโดยสถาบันด้านการขนส่งทางน้ำและโลจิสติกส์ กทท. มีวัตถุประสงค์นำเสนอความรู้สำคัญ พร้อมผลักดันทุกภาคส่วนร่วมกันพัฒนาเพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่ยั่งยืนตามนโยบายของประเทศและสหประชาชาติ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ของ กทท. “มุ่งสู่มาตรฐานท่าเรือชั้นนำระดับโลก ให้บริการด้านโลจิสติกส์เป็นเลิศ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2573” โดยมี ผู้บริหาร พนักงาน กทท. ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สื่อมวลชน เข้าร่วมงานฯ ณ ห้องประชุมชั้น 19 อาคารที่ทำการ กทท.  เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567

การจัดกิจกรรมฯ แบ่งการบรรยายเป็น 2 หัวข้อ ได้แก่ “Mix for Sustain” การบริหารการจัดการพลังงานเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร และหัวข้อ “PAT GO GREEN” สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่ง กทท. ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมให้การบรรยาย ได้แก่ ดร.วีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนงาน คุณนันทนิษฎ์ วงศ์วัฒนา ผู้อำนวยการกองกำกับและอนุรักษ์พลังงาน คุณกิตติศักดิ์ วรรณแก้ว ผู้ช่วยผู้ว่าการยุทธศาสตร์ (กิจการองค์กร) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค คุณรองเพชร บุญช่วยดี รองผู้อำนวยการองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) คุณณัฐวุฒิ อินทรส ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาอย่างยั่งยืน บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย คุณธีรพงศ์ สังขอินทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีมเวิร์ค คอนซัลแตนท์ จำกัด และคุณศกยง พัฒนเวคิน ผู้ก่อตั้งบริษัท เวคิน (ประเทศไทย) จำกัด

 
นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวว่า “ การพัฒนา กทท. ร่วมกับภาคพันธมิตรดำเนินการตามภารกิจของประเทศตามกรอบ SDGs ซึ่งให้ความสำคัญกับ 5 มิติ (5P) ประกอบด้วย การให้ความสำคัญด้านสังคม (People) เศรษฐกิจ (Prosperity) สิ่งแวดล้อม (Planet) ความสันติภาพและยุติธรรม (Peace) และความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา (Partnership) ทั้งนี้ กทท.ได้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก โดยการพัฒนาท่าเรือเพื่อมุ่งสู่การเป็น Green port ชั้นนำของโลก ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยี พลังงานสะอาด ทดแทนการใช้เชื้อเพลิง ได้แก่ การติดตั้งหลังคาโซลาเซลล์ การใช้รถยกไฟฟ้า การจัดกิจกรรมปลูกป่า เป็นต้น ซึ่งจะช่วยซับคาร์บอน และลดปัญหา PM 2.5 ในปัจจุบันได้ด้วย
 
“เชื่อมั่นว่าการจัดงานสัมมนาฯ ในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานระหว่างภาคธุรกิจ ซึ่ง กทท. มีความพร้อมที่จะนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากวิทยากรฯ ทุกท่านไปใช้พัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมภารกิจด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของประเทศต่อไป”

 

ดร.วีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนงาน บรรยายถึง “สถานการณ์พลังงานและแผนการบริหารจัดการพลังงานของประเทศไทย” โดยสำนักนโยบายและแผนพลังงานได้วางเป้าหมายให้สอดคล้องกับแนวทางการมุ่งสู่พลังงานสะอาด และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สร้างความมั่นคงทางพลังงานอย่างยั่งยืน โดยดำเนินการตามแนวทางทีเรียกว่า นโยบาย 4D1E ประกอบด้วย Digitalization, Decarbonization, Decentralization, De-Regulation, และ Electrification ซึ่งครอบคลุม 5 ด้านหลัก คือ ไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ พลังงานทดแทนหรือพลังงานทางเลือก และการอนุรักษ์พลังงาน โดยมีการวางแผนทิศทางตามนโยบาย เพื่อมุ่งสู่ Energy Transition รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
 

ขณะที่นายรองเพชร บุญช่วยดี รองผู้อำนวยการองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) บรรยายเพิ่มเติม ในหัวข้อ “การป้องกันปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ (Climate Change) และมาตรการสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก” ประเทศไทยมีอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นอันดับที่ 22 ของโลก ได้รับผลกระทบจากการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นลำดับที่ 9 ประเทศไทยจึงได้มีการกำหนดนโยบาย 3 เป้าหมายขึ้น ได้แก่ 1. ปี 2030 ลดก๊าซเรือนกระจก 30 – 40% 2. ปี 2050 ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) 3. ปี 2065 ก้าวสู่ Net Zero ดังนั้นการผลักดันลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือก้าวเข้าสู่ Net Zero ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การบริหารจัดการต้องเกิดการปรับตัวหรือใช้กลไกต่างๆ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน

 

ที่มา : การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้