Last updated: 24 ก.ย. 2567 | 199 จำนวนผู้เข้าชม |
EVT เร่งหาพันธมิตรรุกธุรกิจ EV เต็มสูบ ทั้งตั้งโรงงานประกอบแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ธุรกิจ EV BUS และสถานีชาร์จ หลังได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจาก BOI พร้อมลงทุนเฟสแรก 100 ล้านบาท
บริษัท รถไฟฟ้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ EVT ซึ่งเป็นผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายรถโดยสารขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้า มีประสบการณ์ในวงการรถยนต์กว่า 30 ปี เร่งเจรจาพันธมิตรต่างชาติที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ป้อนโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยและใช้เอง
นายกฤศ โกษานันตชัย กรรมการผู้จัดการ EVT เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทฯได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI ในโครงการประกอบแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้า มูลค่าโครงการระยะที่ 1 ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ EVT เร่งดำเนินการเจรจาบริษัทเจ้าของเทคโนโลยีผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้าหลายราย คาดว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้ภายในสิ้นปีนี้
โรงงานประกอบแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้าและ High Energy Density Battery มีแผนสร้างในจังหวัดสมุทรปราการ โดยรายละเอียดอยู่ระหว่างการศึกษา
“ที่เราสนใจลงทุนผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้านั้น เพราะเราอยู่ในธุรกิจนี้มายาวนานกว่า 30 ปี เรามีความรู้และความเข้าใจในตลาด อีกทั้งบริษัทเราเองก็มีความต้องการใช้แบตเตอรี่สำหรับรถใหม่และการบำรุงรักษา นอกจากนี้ เรายังต้องการพัฒนาตลาดเฉพาะกลุ่มที่ต้องการใช้แบตเตอรี่เฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์” นายกฤศ กล่าว
นอกจากโครงการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้าแล้ว EVT ยังสนใจที่จะหาพันธมิตรผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจากในประเทศและต่างประเทศที่พร้อมร่วมลงทุนกับบริษัทฯ ในการพัฒนาตลาดในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับหลักการทำงานของ EVT ที่ไม่ใช่บริษัทที่จำหน่ายรถโดยสารไฟฟ้าเท่านั้น แต่ EVT ยังเป็นผู้ให้บริการครบวงจรในลักษณะการบริหารการเดินรถที่จะพ่วงกับสัญญาการบริการ พร้อมพนักงานขับรถและเจ้าหน้าที่ประจำรถ ซึ่งจะไม่เป็นภาระกับลูกค้า
EVT เป็นผู้ให้บริการและจำหน่ายรถโดยสารไฟฟ้า 100% โดยการบริการจะเป็นลักษณะการให้บริการครบวงจร ผ่านระบบการออกแบบรถให้สอดคล้องกับเส้นทาง การบริหารการเดินรถด้วยการออกแบบเส้นทางร่วมกับลูกค้า การจัดหาพนักงานขับรถและพนักงานต้อนรับบนรถ รวมถึงการวางโครงข่ายระบบนิเวศน์ของรถไฟฟ้า เช่น สถานที่จอดรถ สถานีชาร์จ เป็นต้น
นอกจากนี้ EVT ยังได้พัฒนา Application ติดตามรถบนมือถือแบบ Realtime ให้กับผู้โดยสาร และการให้บริการหลังการขาย การฝึกอบรมพนักงาน ซึ่งการให้บริการดังกล่าวเป็นการนำเสนอ Solution ที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้า สร้างการเติบโต ได้เปรียบด้านต้นทุน มีแหล่งผลิตของตัวเอง
“การหาพันธมิตรผู้ผลิตรถโดยสารจากภายในประเทศและต่างประเทศ เราให้ความสนใจมากเพราะในขณะนี้รถไฟฟ้าเป็นที่ยอมรับของตลาดประเทศไทยและตลาดโลกด้วยคุณภาพและราคาที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ สามารถออกแบบและผลิตได้คุณสมบัติตามความต้องการของลูกค้า แล้วเราเอาระบบบริหารกองรถพร้อมแผนการเดินรถและการบริหารการเดินรถใส่เข้าไปในตัวรถ แต่เป็นพันธมิตรที่ดีในการร่วมพัฒนาธุรกิจให้เติบโตไปด้วยกัน” นายกฤศ กล่าว
ปัจจุบัน ลูกค้าของ EVT ส่วนใหญ่เป็นสถาบันการศึกษา หน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ และโรงพยาบาล รวมถึงภาคเอกชนที่มีโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ มีความประสงค์จะลดการใช้รถส่วนตัวของพนักงานและผู้มาติดต่อเพื่อลดปัญหาจราจรและมีส่วนร่วมต่อการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม จึงเน้นการใช้รถโดยสารไฟฟ้า 100%
ขณะเดียวกัน บริษัท รถไฟฟ้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ก็รับสมัครผู้มีพื้นที่สำหรับติดตั้ง และสนใจร่วมลงทุนในการตั้งสถานีชาร์จ แบบ DC Fast Charge (ชาร์จเร็ว) รถพลังงานไฟฟ้า ในเขตกรุงเทพฯ ภายใต้แบรนด์ EVT Flash Charge ด้วยเช่นกัน
ที่มา : EVT / 24 คูณ 7
3 ต.ค. 2567