X

สถิติยอดผลิต / ยอดขาย / ยอดจดทะเบียนสะสม xEV 9 เดือน ปี 2024 : BEV ควง HEV โตสวน ICE

Last updated: 30 ต.ค. 2567  |  1597 จำนวนผู้เข้าชม  | 

สถิติยอดผลิต / ยอดขาย / ยอดจดทะเบียนสะสม xEV 9 เดือน ปี 2024

ส.อ.ท. เปิดเผยยอดการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ ในเดือนกันยายน 2567 โดยมียอดผลิตรถยนต์ 122,277 คัน ลดลง 25.48% ขาย 39,048 คัน ต่ำสุดในรอบสี่ปีห้าเดือน ลดลง 37.11% ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BEV 1,481 คัน เพิ่มขึ้น 148,000% ประเภท HEV มี 145,490 คัน เพิ่มขึ้น 46.12% ส่วน ICE ยอดผลิตลดลง 28%

สรุปประเด็นสำคัญ

  • ยอดผลิตรถ xEV ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2567 ประเภท BEV มี 7,338 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 ถึง 4,824.83% ประเภท PHEV มี 4,567 คัน ลดลง 38.91% และประเภท HEV มี 145,490 คัน เพิ่มขึ้น 46.12% ส่วน ICE มี 269,324 คัน ลดลง 27.96%
  • ยอดขาย 9 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2567 รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าประเภท BEV ขายได้ 52,219 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 7.17% รถ PHEV ขายได้ 1,653 คัน ลดลง 0.38% รถ HEV ขายได้ 90,740 คัน เพิ่มขึ้น 50.32% ส่วนรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) ขายได้ 117,878 คัน ลดลง 37.40%
  • ยอดจดทะเบียนสะสม ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV มีทั้งสิ้น 206,631 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 107.18% ประเภท HEV มี 446,816 คัน เพิ่มขึ้น 37.79% ประเภท PHEV มี 61,150 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 17.95% 

การผลิต

จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนกันยายน 2567 มีทั้งสิ้น 122,277 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 คิดเป็น 25.48% เฉพาะรถยนต์นั่ง ในเดือนกันยายน 2567 ผลิตได้ 50,685 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 กว่า 12.80% แบ่งเป็น
  • รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine (ICE) มีจำนวน 34,205 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 กว่า 21.43%
  • รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle (BEV) มีจำนวน 1,481 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2566 ถึง 148,000%
  • รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) มีจำนวน 554 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2566 ถึง 21.76%
  • รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle (HEV) มีจำนวน 14,445 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2566 เล็กน้อย 2.21%

รถยนต์ที่ผลิตได้ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2567 มีทั้งสิ้น 1,128,026 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 คิดเป็น 18.61% เป็นยอดผลิตของรถยนต์นั่ง จำนวน 426,719 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 กว่า 11.29 แบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine (ICE) มี 269,324 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 คิดเป็น 27.96%
  • รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle (BEV)  มี 7,338 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 ถึง 4,824.83%
  • รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) มี 4,567 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 ถึง 38.91%
  • รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle (HEV)  มี 145,490 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 ถึง 46.12

ยอดขาย

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนกันยายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 39,048 คัน ต่ำสุดในรอบ 53 เดือน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 13.59 ลดลงจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ซื้อรถยนต์เพราะหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ (SM) ยังอยู่ในระดับที่สูงที่ 208,575 ล้านบาท หนี้เสียรถยนต์อยู่ที่ 259.330 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายในเดือนกันยายน 2567 ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 37.11

กลุ่มรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มียอดขาย 22,519 คัน เท่ากับ 57.67% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 35.67% แบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 11,633 คัน เท่ากับ 29.79% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 41.55%
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 4,574 คัน เท่ากับ 11.71% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ 33.53%
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 197 คัน เท่ากับ 0.21% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 166.22%
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 8,611 คันเท่ากับ 15.66% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 24.93%

ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2567 รถยนต์มียอดขาย 438,659 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกัน 25.25% เป็นรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ 262,490 คัน เท่ากับ 59.84% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 12.22% โดยแบ่งเป็น
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 117,878 คัน เท่ากับ 26.87% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 37.40%
  • รถยนต์นั่งแหละรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 52,219 คัน เท่ากับ 11.90% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ 7.17%
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 1,653 คัน เท่ากับ 0.36% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 0.38%
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 90,740 คันเท่ากับ 20.69% ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 50.32%
 
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนกันยายน 2567

เดือนกันยายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 6,606 คัน ลดลงจากเดือนกันยายนปีที่แล้ว 25.81% แบ่งเป็น
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 4,666 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ถึง 32.08%
  • รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 18 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 กว่า 41.94%
  • รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 6 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 กว่า 79.31%
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 1,817 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 คิดเป็น 6.53%
  • รถโดยสารมีทั้งสิ้น 44 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2566 ถึง 340%
  • รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 55 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายนปีที่แล้ว 175%
 
เดือนมกราคม - กันยายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสม 75,653 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายนปีที่แล้ว 11.67% แบ่งเป็น
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 54,308 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 คิดเป็น 8.14
  • รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 509 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 ถึง 317.21%
  • รถยนต์สามล้อมีทั้งสิ้น 141 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 มากถึง 46.79%
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 20,054 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 กว่า 25.85%
  • รถโดยสารมีทั้งสิ้น 281 คัน ซึ่งลดลงเดือนมกราคม - กันยายน 2566 คิดเป็น 75.46%
  • รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 360 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม - กันยายน 2566 มากถึง 490.16%

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนกันยายน 2567

เดือนกันยายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่ 9,403 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายนปีที่แล้ว 51% แบ่งเป็น
  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ 9,378 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2566 ถึง 51.80%
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 25 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2566 กว่า 48.98%
เดือนมกราคม - กันยายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 104,197 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายนปีที่แล้ว 59.27% แบ่งเป็น
  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 103,784 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กันยายน 2566 มากถึง 59.82%
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 413 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – กันยายน 2566 กว่า 15.02%

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนกันยายน 2567

เดือนกันยายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่ 734 คัน ลดลงจากเดือนกันยายนปีที่แล้ว 27.76% 


เดือนมกราคม - กันยายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสม  7,310 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กันยายนปีที่แล้ว 23.33% 


ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 30 กันยายน 2567

ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ทั้งสิ้น 206,631 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 107.18% โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 143,710 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ถึง 124.99%
  • รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 784 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 คิดเป็น 328.42%
  • รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 1,023 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 คิดเป็น 37.87%
  • รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 57,752 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566  คิดเป็น 78.74%
  • รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2,698 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 คิดเป็น 14.47%
  • รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 664 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 คิดเป็น 145.02%
 
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 30 กันยายน 2567

ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 446,816 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วมากกว่า 37.79% โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 437,529 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 คิดเป็น 38.84%
  • รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2566
  • รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 9,284 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 เพียง 1.74%
  • รถโดยสารมี 2 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2566
 
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 30 กันยายน 2567

ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 61,150 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 17.95%

อ่านข้อมูลฉบับเต็ม คลิกที่ https://www.fti.or.th/News/details?id=411


ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้