X

รมว.อุตสาหกรรม จับมือ JCCI หนุน SMEs ขับเคลื่อน EV และพลังงานสะอาด

Last updated: 23 ม.ค. 2568  |  271 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รมว.อุตสาหกรรม จับมือ JCCI หนุน SMEs ขับเคลื่อน EV และพลังงานสะอาด

รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ จับมือ ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (JCCI) หนุน SMEs ขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า EV พลังงานสะอาด การรีไซเคิลวัสดุในอุตสาหกรรม EV และจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้การต้อนรับนายโอกาตะ มาซาโตะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นายโคบายาชิ เคน ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (JCCI) พร้อมคณะ เข้าพบเพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่น มุ่งเน้นในด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม พลังงาน และการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมี นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ รักษาการผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมหารือ ณ ห้องประชุม 20-1 การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568


นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงความร่วมมือด้านยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และพลังงานสะอาด ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นว่า "ประเทศไทยตั้งเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน ด้วยศักยภาพในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ที่แข็งแกร่งและระบบห่วงโซ่อุปทานที่ครบวงจร ดังนั้นการสนับสนุนจากญี่ปุ่น โดยเฉพาะการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการลงทุนในอุตสาหกรรม EV จะช่วยให้ไทยบรรลุเป้าหมายดังกล่าว

ที่ผ่านมา ไทยได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับ EV เช่น สถานีชาร์จไฟฟ้า ระบบแบตเตอรี่ และการจัดการพลังงานสะอาด โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับการสนับสนุนจากญี่ปุ่นในด้านการพัฒนาเทคโนโลยี การรีไซเคิลวัสดุเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม EV รวมถึงการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาที่มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต"


นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงความร่วมมือภายใต้กรอบ Asai Zero Emission Community (AZEC) Framework เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในเอเชีย ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงวิธีการขับเคลื่อนกรอบความร่วมมือให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมถึงการส่งเสริมโครงการที่เกี่ยวข้อง เช่น การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี และการสนับสนุนการพัฒนาบุคลากร และข้อริเริ่มของรัฐบาลญี่ปุ่นในด้านการสนับสนุนทางการเงินและการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสีเขียว การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยในระยะยาว


“ไทยและญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งยาวนาน ถือเป็นพันธมิตรสำคัญของไทยทั้งในด้านการค้า การลงทุน และการพัฒนานวัตกรรม การพบปะหารือนี้จึงเป็นโอกาสในการเสริมสร้างความร่วมมือ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมทั้งได้กล่าวถึงความสำคัญของการสนับสนุนจากญี่ปุ่นในด้านองค์ความรู้และเทคโนโลยี โดยขอให้ญี่ปุ่นช่วยสนับสนุนองค์ความรู้และแนวทางในการผลักดันส่งเสริม SMEs ของไทย รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต" นายเอกนัฏ กล่าวในที่สุด

ที่มา : รัฐบาลไทย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้