X

Rolls-Royce Black Badge Spectre รถ EV ระดับ Ultra-Luxury เปิดตัวในไทย เคาะราคา 41.5 ล้านบาท

Last updated: 12 มิ.ย. 2568  |  1050 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โรลส์-รอยซ์เปิดตัว Rolls-Royce Black Badge Spectre รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าระดับ Ultra-Luxury กำลังจะเปลี่ยนไป! เมื่อโรลส์-รอยซ์เปิดตัว Rolls-Royce Black Badge Spectre รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) รุ่นแรกในประวัติศาสตร์การผลิตของแบรนด์ โดยยังคงเอกลักษณ์ความหรูหรา แต่เพิ่มความสปอร์ตและความดุดันเข้าไปในสไตล์ Black Badge มาพร้อม Infinity Mode เพียงกดปุ่มที่พวงมาลัยก็ปลดล็อกพลังงานทั้ง 659 แรงม้าให้พารถพุ่งทะยาน...

เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุด โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์คาร์ส แบงคอก ได้เปิดตัว โรลส์-รอยซ์ แบล็คแบดจ์ สเปกเตอร์ ในไทยอย่างเป็นทางการ เคาะราคา 41.5 ล้านบาท พร้อมแพ็กเกจ SPECTRE Ownership

ไฮไลท์ :

  • ขุมพลังมอเตอร์แฝด หน้าและหลัง กำลังสูงสุด 659 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,075 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
  • WLTP : อัตราการใช้พลังงาน : 2.6-2.8 ไมล์/kWh / 23.8-22.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม. ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้า 329-306 ไมล์ / 530-493 กม. การปล่อย CO2 0 ก./กม.


Rolls-Royce Black Badge Spectre ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิด "Ultra-Luxury Electric Super Coupé" ซึ่งเป็นการผสมผสานความหรูหราอันเป็นเอกลักษณ์ของ Rolls-Royce เข้ากับเทคโนโลยีไฟฟ้าล้ำสมัยและสมรรถนะที่ทรงพลัง โดยใช้แพลตฟอร์ม "Architecture of Luxury" ที่มีโครงสร้างเป็นอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาและแข็งแรง ซึ่งออกแบบมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เป็นแพลตฟอร์มที่ Rolls-Royce พัฒนาขึ้นเอง


ภายนอกของ Black Badge Spectre มาพร้อมสีเปิดตัว "สีม่วง Vapor Violet" ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบรรยากาศนีออนของวัฒนธรรมคลับในยุค 1980 และ 1990 ตกแต่งด้วยสีดำเข้มเพิ่มความดุดันตามแบบฉบับ Black Badge กระจังหน้า Pantheon Grille แบบเรืองแสงและสัญลักษณ์ Spirit of Ecstasy สีดำและตราเกียรติยศ "R" ไฟหน้า LED ดีไซน์เรียวบาง หลังคาลาดเอียงสไตล์ Fastback ประตู Coach Doors อันเป็นเอกลักษณ์ 



ติดตั้งล้ออะลูมินัมฟอร์จขนาด 23 นิ้ว ลายใหม่ 5 ก้าน ดีไซน์เฉพาะ Black Badge เลือกได้ทั้งสีดำล้วน หรือกึ่งปัดเงาการตกแต่ง สร้างประสบการณ์ขับที่พิเศษยิ่งขึ้น อาทิ กระจังหน้าแพนธีออนเรืองแสง เพิ่มลูกเล่นด้วยการพ่นสีด้านในได้ตามต้องการ (Illuminated Pantheon Grille)

ห้องโดยสารประดับลวดลาย Technical Fibre และ แดชบอร์ดเรืองแสง (Illuminated Fascia) มาตรวัดหน้าผู้ขับมีให้เลือก 5 สี คือ Vivid Grellow, Neon Nights, Cyan Fire, Ultraviolet and Synth Wave แดชบอร์ดเรืองแสง (Illuminated Fascia) บริเวณฝั่งผู้โดยสาร ฉลุเป็นลวดลายของปีกนางฟ้า พร้อมเพิ่มสัญลักษณ์อินฟินิตี้

ตกแต่งตามจุดต่างๆ ด้วยลวดลาย Technical Fibre ที่มีส่วนประกอบของเส้นใยคาร์บอนและโลหะ พร้อมขัดแต่งอย่างประณีต ประตูดาว (Starlight Doors) ส่องแสงเป็นประกายระยิบระยับ แผ่นกันรอยกาบบันได พร้อมโลโก้ ‘Black Badge’ เรืองแสง ส่วนเบาะคู่หลัง ขั้นกลางด้วยสัญลักษณ์อินฟินิตี้ หลังคา Starlight Headliner ไฟเบอร์ออพติก 4,796 ดวง

ภายใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น หนังแท้ และไม้ แผงหน้าปัดดิจิทัลและหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ เบาะนั่งหนังแท้ปรับไฟฟ้าพร้อมระบบนวด ระบบเครื่องเสียง Bespoke Audio System 



ขุมพลังของ Black Badge Spectre คือ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หน้าและหลัง เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร กำลังสูงสุด 659 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,075 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 102 kWh ระบบแรงดันไฟฟ้า 400 โวลต์ รองรับการชาร์จ DC สูงสุด 195 kW ชาร์จ DC จาก 10-80% ใน 34 นาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 446 กิโลเมตร/ชาร์จ (WLTP)


Black Badge Spectre ภูมิใจเสนอโหมดอินฟินิตี้ (Infinity Mode) โดยเพียงกดปุ่มอินฟินิตี้บนพวงมาลัยก็สามารถปลดล็อกพลังงานทั้งหมด 485 กิโลวัตต์ / 659 แรงม้าของรถ EV คันนี้ นอกจากนี้ยังมีโหมด Spirited (เหมือน Launch Control) ซึ่งช่วยให้ออกตัวได้รวดเร็ว

ระบบช่วงล่าง : Planar Suspension ที่ปรับการทำงานอัตโนมัติตามสภาพถนน

ระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS) : ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน / ระบบเตือนการชนด้านหน้า / ระบบช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลน / ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ

ประเภทตัวถัง : คูเป้ 2 ประตู 4 ที่นั่ง


มิติตัวรถ : ยาว 5,453 มม. กว้าง 2,080 มม. สูง 1,559 มม. น้ำหนักรถเปล่า 2,890 กก.

คู่แข่งขันในตลาด : Bentley Mulliner Batur, Mercedes-AMG S 63 E Performance, Mercedes-AMG EQS 53

ราคาเริ่มต้นในต่างประเทศประมาณ 490,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ 

วิศวกรรมของ แบล็คแบจ สเปกเตอร์

แบล็คแบจ สเปกเตอร์ ได้รับการปรับปรุงเชิงวิศกรรม เพื่อรองรับกับพละกำลังที่สูงขึ้น ด้วยการเพิ่มน้ำหนักของพวงมาลัย เพิ่มความมั่นใจในการควบคุมและรับรู้ถึงสภาพถนนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมปรับแต่งตัวถังและช่วงล่างพลานาร์ เพื่อลดการโยนตัว และลดอาการหน้าเชิดหรือหน้าทิ่ม ขณะเร่งหรือเบรกเต็มแรง โดยยังคงรักษาความสะดวกสบายในการโดยสารไว้ได้อย่างครบถ้วน

สมรรถนะ

แบล็คแบจ สเปกเตอร์ นับเป็นยนตรกรรมที่ทรงพลังที่สุด ในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์ แพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา (Architecture of Luxury) รองรับขุมพลังไฟฟ้าอย่างลงตัว อีกทั้งเพิ่มความแข็งแกร่งของสเปซเฟรม 30% ขับเคลื่อนด้วย 2 มอเตอร์ SSM (Separately Excited Synchronous Motors) ปรับแต่งพิเศษ ทำได้ 659 แรงม้า (HP) แรงบิด 1,075 นิวตันเมตร ขับได้ไกลสุดถึง 530 กิโลเมตร (WLTP) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 4.3 วินาที พร้อมโหมด ‘Infinity’ ที่ปรับเปลี่ยนบุคลิกของรถให้ดุดันเต็มพิกัดได้แรงบันดาลใจจากคุณสมบัติการปลดปล่อยพลังสำรองในช่วงสั้นๆ ของเครื่องยนต์ โรลส์-รอยซ์ เมอร์ลิน (Rolls-Royce Merlin) ที่ใช้กับเครื่องบินรบหลายรุ่น ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ข้อมูลเชิงเทคนิค

  • อัตราสิ้นเปลือง 23.8-22.2 kWh/100 กิโลเมตร (WLTP)
  • ระยะทางที่ขับได้โดยเฉลี่ย 493-530 กิโลเมตร


แพ็กเกจ SPECTRE Ownership :

  • รับประกันคุณภาพจากผู้ผลิตนาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ไม่ครอบคลุมรถยนต์ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์)*
  • รับประกันคุณภาพแบตเตอรี่นาน 15 ปี*
  • โรลส์-รอยซ์ Wall Box 22 kW พร้อมติดตั้งฟรี*
  • โปรแกรมบำรุงรักษา (service inclusive) ครอบคลุมค่าแรงทั้งหมด*
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง*
  • ทีมบุคลากรของ โรลส์-รอยซ์ ในประเทศไทย ผ่านการอบรมพร้อมประกาศนียบัตรด้านการบำรุงรักษา สเปกเตอร์ อย่างเต็มรูปแบบ*
 

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก (พระราม 3) โทร. 02-670-6060

ที่มา : Rolls-Royce / มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้