อุตฯ EV ไทยแกร่ง ยอดผลิต BEV ไตรมาสแรกโต 252%

อุตสาหกรรม EV ของไทยยังแข็งแกร่ง ยอดผลิต BEV ไตรมาสแรก ระหว่าง ม.ค – มี.ค. 2568 เฉียดหมื่น ปิดยอด 3 เดือนแรกที่ 9,319 คัน เพิ่มขึ้นจาก ม.ค – มี.ค. 2567 ถึง 252% ในขณะที่ยอดผลิตรถยนต์นั่ง ICE ติดลบ 43% ยอดขาย BEV ไตรมาสแรก 22,737 คัน เพิ่มขึ้น 18.85% และมียอดขายรถกระบะไฟฟ้า 100% โผล่มา 96 คัน

• ยอดขายรถ EV ไตรมาสแรก ปี 2568 เป็น BEV 22,737 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 18.85% PHEV 2,458 คัน เพิ่มขึ้น 336.59% HEV 33,323 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 7.54% รถกระบะไฟฟ้า (BEV) 96 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย
• ยอดผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกในเดือนมีนาคม 2568 ลดลง 9.36% จากการผลิตรถยนต์นั่งลดลงถึง 51.18% เพราะมีการเปลี่ยนรุ่นรถบางรุ่นของรถยนต์นั่ง แต่มีการผลิตรถยนต์นั่งเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 35.01% จากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง BEV และ PHEV เพิ่มขึ้น
  

วันอังคารที่ 29 เมษายน 2568 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนมีนาคม 2568 ว่ามียอดผลิตรถยนต์ 129,909 คัน ลดลง 6.09% แต่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ 5,412 คัน เพิ่มขึ้น 341.44% ขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 8,233 คัน เพิ่มขึ้น 78.40% ตามข้อมูลดังต่อไปนี้

*การผลิต*

จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมีนาคม 2568 มีทั้งสิ้น 129,909 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ร้อยละ 12.49 แต่ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 6.09 เพราะผลิตส่งออกลดลงร้อยละ 9.36 จากการผลิตรถยนต์นั่งลดลงถึงร้อยละ 51.18 เพราะมีการเปลี่ยนรุ่นรถบางรุ่นของรถยนต์นั่ง แต่ผลิตรถยนต์นั่งเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.01 เพราะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง BEV และ PHEV เพิ่มขึ้น แต่ผลิตรถกระบะลดลงร้อยละ 29.32 ตามยอดขายรถกระบะที่ยังคงลดลง

รถยนต์นั่ง เดือนมีนาคม 2568 ผลิตได้ 45,588 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 12.50 แบ่งเป็น


รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine (ICE) จำนวน 18,451 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 41.77
รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle (BEV) มีจำนวน 5,412 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 341.44
รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) มีจำนวน 2,360 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 289.44
รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle (HEV) มีจำนวน 19,365 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 4.21
 

ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 มีจำนวน 119,865 คัน เท่ากับร้อยละ 34 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 22.69 แบ่งเป็น


รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine (ICE) มีจำนวน 53,267 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 43.29
รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle (BEV) มีจำนวน 9,319 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 252.06
รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) มีจำนวน 6,752 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 336.18
รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle (HEV)  มีจำนวน 50,527 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 11.25


ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนมีนาคม 2568 ผลิตได้ 46,692 คัน เท่ากับร้อยละ 35.94 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 0.36 และเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ผลิตได้ 115,703 คัน เท่ากับร้อยละ 32.82 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 17.62

รถยนต์นั่ง เดือนมีนาคม 2568 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 31,566 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 35.01 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ผลิตได้ 78,378 คัน เท่ากับร้อยละ 65.39 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.01

 
*ยอดขาย*
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมีนาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 55,798 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ร้อยละ 13.15 และลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 0.54 จากรถกระบะที่ยังคงขายลดลงร้อยละ 7.84 เพราะการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ยังกังวลหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจของประเทศเติบโตในอัตราต่ำ ค่าครองชีพสูง

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 34,685 คัน เท่ากับร้อยละ 62.16 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 2.83 แบ่งเป็น


รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 13,770 คัน เท่ากับร้อยละ 24.68 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 15.13
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 8,179 คัน เท่ากับร้อยละ 14.66 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 77.23
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 705 คัน เท่ากับร้อยละ 1.26 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 250.75
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 12,031 คัน เท่ากับร้อยละ 21.56 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.18

รถกระบะมีจำนวน 14,941 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 7.84 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 54 คัน ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 3,360 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ  2.21 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,472 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 6.95 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,286 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 12.81

  

ตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 รถยนต์มียอดขาย 153,193 คัน ลดลงจากปี 2567 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 6.45 แยกเป็น

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ จำนวน 96,073 คัน เท่ากับร้อยละ 62.71 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 3.57


รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 37,555 คัน เท่ากับร้อยละ 24.51 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 14.44
รถยนต์นั่งแหละรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 22,737 คัน เท่ากับร้อยละ 14.84 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 18.85
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 2,458 คัน เท่ากับร้อยละ 1.60 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 336.59
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 33,323 คัน เท่ากับร้อยละ 21.75 ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.54


รถกระบะมีจำนวน 40,379 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 13.37 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 96 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 9,387 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 4.35

*ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนมีนาคม 2568*
เดือนมีนาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 9,905 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 33.20 โดยแบ่งเป็น รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 7,839 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 57.31 แยกเป็นรถยนต์นั่ง 7,570 คัน รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน 144 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 4 คัน รถกระบะ รถแวน 18 คัน รถยนต์สามล้อรับจ้าง 3 คัน รถจักรยานยนต์ 1,998 คัน รถโดยสาร 37 คัน รถบรรทุก 10 คัน

เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  31,991 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 7.66 โดยแบ่งเป็น


รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 25,397 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 14.47 แยกเป็น รถยนต์นั่ง 24,996 คัน รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน 263 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 9 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 129 คัน รถกระบะ รถแวน 82 คัน รถยนต์สามล้อ 5 คัน

รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 6,401 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 11.17 แบ่งเป็น รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล 6,400 คัน รถจักรยานยนต์สาธารณะ 1 คัน

*ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนมีนาคม 2568*
เดือนมีนาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 12,570 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 4.92 แบ่งเป็น

รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มี 12,468 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 4.41 แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 12,390 คัน รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน 4 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 51 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 23 คัน

รถจักรยานยนต์ 102 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 161.54 เป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลทั้งหมด

เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสม 38,165 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 0.13 แบ่งเป็น


รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 37,932 คัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 37,821 คัน รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน 9 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 62 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 40 คัน

รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 233 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 164.77 เป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลทั้ง 233 คัน

*ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนมีนาคม 2568* 
เดือนมีนาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 2,038 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 132.65 โดยแบ่งเป็น


รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 2,038 คัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 2,018 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 20 คัน

เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสม จำนวน  4,132 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 52.47 โดยแบ่งเป็น

รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 4,132 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 52.47 แยกเป็น รถยนต์นั่ง 4,109 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 20 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 3 คัน

*ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568*
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 258,982 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 60.51 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

 
รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ 184,556 คัน แยกได้เป็น รถยนต์นั่ง 180,772 คัน รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน 2,766 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 211 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 171 คัน รถยนต์บริการให้เช่า 3 คัน รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 633 คัน รถกระบะและรถแวน 953 คัน รถยนต์ 3 ล้อ 1,026 คัน รถจักรยานยนต์ 68,653 คัน รถโดยสาร 2,833 คัน รถบรรทุก 946 คัน

*ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568*
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 507,224 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 32.99 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 497,734 คัน ซึ่งแยกได้เป็น รถยนต์นั่ง 496,479 คัน รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ 500 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 135 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 256 คัน รถยนต์บริการให้เช่า 5 คัน รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 359 คัน

รถกระบะและรถแวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ 9,487 คัน รถโดยสาร 2 คัน

*ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568*
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 67,270 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 18.76 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 67,270 คัน แยกได้เป็น รถยนต์นั่ง 67,174 คัน รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน 1 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 63 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 21 คัน รถยนต์บริการให้เช่า 5 คัน รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 6 คัน

อ่านข้อมูลฉบับเต็ม คลิก : https://www.fti.or.th/News/details?id=687

ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)