Last updated: 6 พ.ค. 2568 | 83 จำนวนผู้เข้าชม |
GWM เปิด 3 กลยุทธ์สำคัญสยายปีกในเวทีโลกด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง ทุ่ม 500 ล้านหยวนตั้งศูนย์ทดสอบความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียที่เมืองเป่าติ้ง ประเทศจีน ระบุประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการผลิตและส่งออกไปสู่ตลาดต่างประเทศ
กรุงเทพฯ 6 พฤษภาคม 2568 – GWM ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งาน (All Users)” โดยในงาน Auto Shanghai 2025 ครั้งที่ 21 นอกจากจะได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้เข้าชมงานทั่วโลกด้วยทัพยนตรกรรมกว่า 40 รุ่น จาก 6 แบรนด์หลัก
GWM ยังได้ประกาศ 3 กลยุทธ์สำคัญเพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจในระดับโลกอีกด้วย ได้แก่
1.) ยกระดับมาตรฐานสากลอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ พร้อมตอบความต้องการในทุกตลาดด้วยนวัตกรรมที่หลากหลายและครอบคลุม
2.) พัฒนานวัตกรรมระบบขับเคลื่อนที่ล้ำหน้าและหลากหลายเพื่อผู้ใช้ทั่วโลก
3.) สร้างระบบนิเวศร่วมกับชุมชนทั่วโลก พร้อมทุ่มงบประมาณกว่า 500 ล้านหยวน (2,300 ล้านบาทโดยประมาณ) เพื่อจัดตั้งศูนย์ทดสอบความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ทั้งหมดนี้ คือการมุ่งสร้างการเติบโตในระดับสากลของ GWM เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับโลกที่ล้ำหน้าด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง
มู่ เฟิง ประธาน GWM กล่าวว่า “ภารกิจของ GWM คือการก้าวข้ามขีดจำกัดในทุกมิติ เพื่อมอบยนตรกรรมอัจฉริยะที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานทั่วโลก โดยในครั้งนี้บริษัทฯ มาพร้อมกับ 3 กลยุทธ์สำคัญที่กำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัย การพัฒนาและผลิตเครื่องยนต์อย่างครบวงจร รวมทั้งการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ที่ยั่งยืนในตลาดต่าง ๆ ทั่วโลก ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกในทุก ๆ ด้าน GWM จะยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้บุกเบิกทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมสร้างไลฟ์สไตล์ยานยนต์ที่สอดคล้องกับแนวคิด ‘เทคโนโลยีที่เต็มไปด้วยความรัก และโลกที่เต็มไปด้วยพลังชีวิต” (Tech With More Love. World With More Life) เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทั่วโลก”
3 กลยุทธ์สำคัญในการกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจในระดับโลกของ GWM
Consistency & Diversity : ยกระดับมาตรฐานสากล “อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ” พร้อมย้ำ “ความปลอดภัย” คือหัวใจหลักของแบรนด์
GWM ตอกย้ำความเป็นผู้นำในระดับโลกผ่านกลยุทธ์ “มาตรฐานระดับโลกควบคู่กับการปรับให้เหมาะสมในแต่ละท้องถิ่น” (Global Standards + Local Customization Strategy) โดยมุ่งยกระดับทั้งคุณภาพและความปลอดภัยของรถยนต์ตามมาตรฐานสากลอย่างต่อเนื่อง ยืนยันความสำเร็จด้วยคะแนน 5 ดาวจากการทดสอบชั้นนำในหลากหลายเวทีทั่วโลก สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกได้อย่างแท้จริง มอบความปลอดภัยให้กับทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ใช้รถใช้ถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อรองรับกลยุทธ์ดังกล่าว ในปี 2568 นี้ GWM ได้มีการลงทุนกว่า 500 ล้านหยวน หรือกว่า 2,300 ล้านบาท ในการก่อตั้งศูนย์ทดสอบความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ในเมืองเป่าติ้ง ประเทศจีน อีกทั้งยังได้มีการจัดแสดงแบบจำลองของศูนย์ทดสอบความปลอดภัยและห้องปฏิบัติการอุโมงค์ลม ภายในงาน Auto Shanghai 2025 เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นและความทุ่มเทด้านความปลอดภัยของยานยนต์พลังงานใหม่ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ GWM ยังเสริมสร้างรากฐานของแบรนด์ให้แข็งแกร่งในทั้ง 3 มิติผ่าน “ตัวตน คุณภาพ และการบริการ” (Character, Quality, and Service) ร่วมกับการยกระดับเอกลักษณ์แบรนด์ในทั้ง 3 ด้าน “ผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และวัฒนธรรม” (Product, Technology, and Culture) ด้วยการพัฒนาและปรับผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในตลาดต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด เช่น GWM TANK 300 รุ่น Middle East Edition ที่มาพร้อมเพดานดวงดาวระยิบระยับเสมือนบรรยากาศท้องฟ้าในยามราตรี และ GWM ORA รุ่น Nordic Edition ที่แต่งแต้มบรรยากาศด้วยไฟหลากสีสันราวกับแสงเหนืออันตระการตา รวมถึงการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริงผนวกกับการสร้างการรับรู้และขยายชื่อเสียงของแบรนด์และการยอมรับในระดับนานาชาติได้อย่างแข็งแกร่ง
Powerful Powertrains for Globalization : พัฒนานวัตกรรมระบบขับเคลื่อนที่ล้ำหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสมรรถนะ
ก่อนที่ GWM จะประสบความสำเร็จจนสามารถสร้างชื่อเสียงอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศจีนและระดับโลกในปัจจุบันนั้น GWM ก้าวสู่ความสำเร็จจากการเปิดตัวรถกระบะรุ่น “Deer” ในปี 2538 และเริ่มขยายไปยังตลาดต่างประเทศในปี 2540 หลังจากที่ แจ็ค เว่ย ผู้ก่อตั้ง GWM ได้รับแรงบันดาลใจจากการเติบโตของตลาดรถกระบะหลังจากที่ได้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย จนนำไปสู่การริเริ่มและพัฒนาธุรกิจ รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตเทคโนโลยีและนวัตกรรมของเครื่องยนต์ที่ล้ำหน้าสำหรับรถกระบะเพื่อจัดจำหน่ายในประเทศจีน และขึ้นครองตำแหน่งแบรนด์ที่มียอดขายรถกระบะสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ติดต่อกันถึง 26 ปีซ้อนในที่สุด
ในปี 2545 GWM รุกตลาดรถยนต์เอสยูวีผ่านรุ่น GWM Safe และ GWM HAVAL H6 จนพัฒนาจาก “ผู้นำในตลาดรถยนต์เอสยูวีของจีน” สู่การเป็น “เพื่อนร่วมทางสำหรับบรรดาครอบครัวทั่วทุกมุมโลก” GWM ยังได้มีการขยายแบรนด์ให้ครอบคลุมในหลากหลายทุกเซกเมนต์มากยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา เช่น GWM WEY ที่ได้เปิดประตู GWM ให้ก้าวเข้าสู่ตลาดรถยนต์ระดับพรีเมียม GWM ORA กับการเปิดตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่เน้นความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และ GWM TANK ที่ผงาดขึ้นเป็นรถยนต์พลังงานใหม่ในตลาดออฟโรดระดับโลกที่เต็มไปด้วยคาแรกเตอร์ที่แตกต่าง แข็งแกร่ง และพรีเมียม
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับโลก GWM มุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ “การพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยี” (Technological Self-Reliance) กับการวิจัยและพัฒนา ผลิต ตลอดจนซ่อมบำรุง และการดูแลอย่างครบวงจรด้วยตนเอง เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก
ยิ่งไปกว่านั้น GWM ยังใช้กลยุทธ์ “การพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในอย่างครอบคลุม” (Broad Internal Combustion) เพื่อพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยีการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์ เกียร์ และระบบการขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง นำไปสู่การสร้างระบบขับเคลื่อนไฮบริดสี่ล้อหลากหลายรูปแบบ อาทิ Hi4, Hi4 Performance Edition, Hi4-Z, Hi4-T และ Hi4-G ครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไปจนถึงรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ ตอบโจทย์การเดินทางและการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าทั่วโลกได้อย่างเป็นรูปธรรม