Last updated: 17 พ.ค. 2568 | 130 จำนวนผู้เข้าชม |
สรุปวิสัยทัศน์ 6 ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ เวที “BOI SYMPOSIUM 2025 ต่อการพัฒนายานยนต์สมัยใหม่ xEV เมอร์เซเดส-เบนซ์ หนุนเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า 100% บีเอ็มดับเบิลยู เตรียมเปิดตัว “Neue Klasse” ฮอนด้า พร้อมผลักดันอุตสาหกรรมและระบบนิเวศ xEV โตโยต้า เตรียมแผนผลิตรถกระบะไฟฟ้าไทยปลายปีนี้ เอ็มจี พร้อมยกระดับซัพพลายเชนในไทยสู่การผลิตและส่งออก xEV ฉางอาน คาดxEV ทั่วโลก จะมีสัดส่วนร้อยละ 40 ในปี 2028
ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ 6 รายจากญี่ปุ่น จีน และยุโรป ได้แก่ โตโยต้า, ฮอนด้า, เอ็มจี, ฉางอาน, เมอร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู ได้ขึ้นเวที “BOI SYMPOSIUM 2025” ร่วมแสดงวิสัยทัศน์และมุมมองต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่และผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุปทาน ในหัวข้อ “Future Directions of xEV Industry Development and Supply Chain Integration: Opportunities and Challenges for Thai Entrepreneurs to Compete in the Global Market” ในงาน "SUBCON Thailand 2025” ครั้งที่ 19 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 สรุปได้ดังนี้
เมอร์เซเดส-เบนซ์ หนุนเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า 100%
นายมาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าทิศทางในอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (future mobility) จะมุ่งสู่พลังงานไฟฟ้า ดิจิทัล และความยั่งยืน ดังนั้น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่เพียงแต่นำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ครบทุกประเภท แต่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อระหว่างรถยนต์ไฟฟ้ากับรถยนต์สันดาปภายใน และช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า 100%
ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้มีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สถานีชาร์จและบริการหลังการขาย และยกระดับทักษะแรงงานรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำหรับ Supply Chain ในประเทศไทย โดยพร้อมร่วมมือในเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตร เน้นการพัฒนาอย่างยืดหยุ่น รองรับการเปลี่ยนผ่านในอนาคตอย่างยั่งยืน และต้องการให้ภาครัฐปรับเงื่อนไขการใช้ชิ้นส่วนในประเทศให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับผู้ประกอบการที่เป็น Small Volume พร้อมเร่งเจรจา FTA ไทย - อียู เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าและการส่งออกให้มากขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เตรียมเปิดตัว “Neue Klasse”
นายเรเน่ แกร์ฮาร์ด ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต คือเทคโนโลยีดิจิทัลและความยั่งยืน ซึ่งถือเป็นพันธกิจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ในปี 2025 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป กำลังมุ่งหน้าสู่หมุดหมายสำคัญด้วยการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ารวมกว่า 1.5 ล้านคันทั่วโลก และในปีเดียวกันนี้ บีเอ็มดับเบิลยูเตรียมเปิดตัว “Neue Klasse” ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูเจเนอเรชั่นใหม่ที่เน้นเทคโนโลยีดิจิทัล พลังงานไฟฟ้า และเศรษฐกิจหมุนเวียน
อย่างไรก็ตาม บีเอ็มดับเบิลยู มีความพร้อมในการจับมือกับซัพพลายเออร์ เพื่อพัฒนาระบบดิจิทัล โลจิสติกส์ และไอที ซึ่งเป็นกลไกหลักในการรับมือกับความผันผวนของการค้าโลกที่เกิดขึ้น และทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
ฮอนด้า ออโตโมบิล พร้อมผลักดันอุตสาหกรรมและระบบนิเวศ xEV
นายโคจิ อิวานามิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฮอนด้ามีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ HEV และ BEV อย่างต่อเนื่อง และพร้อมเปิดตัว Honda 0 Series รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่สู่ตลาดโลกในปี 2026 สำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นฐานการผลิตที่สำคัญนั้น ฮอนด้าจะช่วยผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมและระบบนิเวศของ xEV พร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนรัฐบาลในการพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทยให้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างการเติบโตไปด้วยกัน โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพราะฮอนด้าเชื่อว่าบุคลากรเป็นหัวใจ ของการพัฒนาที่ยั่งยืน ดังเช่นที่ได้วางรากฐานบุคลากรให้กับรถยนต์สันดาปภายใน ตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมา
โตโยต้า มอเตอร์ เตรียมแผนผลิตรถกระบะไฟฟ้าในประเทศไทยปลายปีนี้
นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันแนวโน้มตลาด BEV ทั่วโลกเริ่มชะลอตัวลง ในขณะที่ตลาด HEV โตขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดในอาเซียน ซึ่งเห็นได้ชัดในประเทศไทย ทางโตโยต้าให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยี HEV แต่ในขณะเดียวกันก็เตรียมแผนผลิตรถกระบะไฟฟ้าในประเทศไทยปลายปีนี้
“รถกระบะ และอีโคคาร์ ถือเป็นโปรดักส์แชมเปี้ยนของไทยที่ยังต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามการจะผลักดันให้ไทยเป็นฐานผลิตที่แข็งแกร่งของ xEV จะต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการสร้างตลาดภายในประเทศให้แข็งแกร่ง รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งตลาดในประเทศและส่งออก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ”
เอ็มจี พร้อมยกระดับซัพพลายเชนในประเทศสู่การผลิตและส่งออก xEV
นายสุโรจน์ แสงสนิท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี (MG) กล่าวว่า ตลาด xEV ไทยขยายตัวรวดเร็วและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเป็นการเปลี่ยนผ่านอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้นโยบายมุ่งสู่ความยั่งยืน โดย MG พร้อมยกระดับซัพพลายเชนในประเทศ ผ่านความร่วมมือและถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย และผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการผลิตและส่งออก xEV ของอาเซียน ยึดหลัก ESG เป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจ โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่มีเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและจริยธรรมร่วมกัน พร้อมเสนอแนวทางเชิงนโยบายและการผลักดันให้ภาครัฐ เอกชน โดยใช้ xEV มากขึ้น และได้ทิ้งท้ายว่า
“MG เชื่อมั่นในศักยภาพของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะจุดแข็งด้านบริการหลังการขายที่เหนือกว่าคู่แข่ง ด้วยความเข้าใจลูกค้าและการให้บริการที่รวดเร็ว จึงอยากให้รักษาจุดแข็งนี้ไว้ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และความยั่งยืนในระยะยาว เพราะความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่มั่นคง เกิดจากการเติบโตไปด้วยกันอย่างจริงใจ”
ฉางอาน คาดการณ์ xEV ทั่วโลก จะมีสัดส่วนร้อยละ 40 ในปี 2028
นาย กวน ซิน รองประธาน บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย จำกัด กล่าวว่า แนวโน้ม xEV ในตลาดโลกยังเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าการใช้ xEV ทั่วโลก จะมีสัดส่วนร้อยละ 40 ของการใช้รถยนต์ทั้งหมด ในปี 2028 ซึ่งรวมถึงตลาดในประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั้ง BEV, HEV และ PHEV ยังมีทิศทางเติบโต และได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากภาครัฐ ฉางอานมีความมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ ๆ โดยเฉพาะในโรงงานที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นโรงงานในต่างประเทศแห่งแรกของฉางอาน และมีเป้าหมายในการพัฒนาบุคลากร ถ่ายทอดเทคโนโลยี การใช้แรงงาน และชิ้นส่วนในประเทศเพื่อยกระดับไทยให้เป็นฐานผลิตที่แข็งแกร่งของฉางอานในอนาคต
ที่มา : บีโอไอ