X

บีโอโอ เผยรถ xEV โตเร็ว มีขอส่งเสริมลงทุน 644 โครงการ มูลค่า 280,000 ล้าน

Last updated: 17 พ.ค. 2568  |  79 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บีโอโอ เผยรถ xEV โตเร็ว มีขอส่งเสริม 644 โครงการ มูลค่ารวม 280,000 ล้านบาท

เลขาธิการ บีโอโอ เผย ความนิยมในรถยนต์ xEV เติบโตอย่างรวดเร็ว มียอดจดทะเบียน 206,000 คัน ในปี 2567 ช่วง 3 ปีที่ผ่านมีการขอรับส่งเสริมลงทุน 644 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 280,000 ล้านบาท 

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวในงานสัมมนา “BOI SYMPOSIUM: Shaping the Future of xEV in Thailand” ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย มีผู้ผลิตชิ้นส่วนที่อยู่ใน Supply Chain กว่า 2,000 บริษัท และมีการจ้างงานกว่า 9 แสนคน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2565 – 2567) ความนิยมในรถยนต์ xEV ไม่ว่าจะเป็น BEV, PHEV และ HEV ได้เติบโตอย่างรวดเร็ว จากยอดจดทะเบียนรถยนต์ xEV 84,500 คัน ในปี 2565 เพิ่มขึ้นอย่าง ก้าวกระโดดเป็น 206,000 คัน ในปี 2567 โดยในส่วนของการลงทุน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการขอรับส่งเสริม การลงทุนในการผลิตรถยนต์ xEV และชิ้นส่วน จำนวน 644 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 280,000 ล้านบาท

ภูมิทัศน์การค้าและการลงทุนโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ และ ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์สมัยใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ โดยรัฐบาลไทยและบีโอไอ ได้ออกมาตรการสนับสนุนอย่างรอบด้าน สำหรับผู้ประกอบการทั้งรายใหม่และรายเดิม อาทิ มาตรการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนเครื่องจักร หรือนำระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต

ในส่วนของการพัฒนาบุคลากรได้มีมาตรการส่งเสริมการร่วมทุน ระหว่างผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างประเทศกับผู้ผลิตไทย เพื่อให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ มาตรการลดภาษีสรรพสามิตสำหรับ HEV, MHEV และ PHEV รวมถึงการจัดกิจกรรมเชื่อมโยงและจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยกับผู้ซื้อรายใหญ่ในต่างประเทศ อย่างงาน SUBCON Thailand เป็นต้น เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ให้แข็งแกร่งและสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์สมัยใหม่หรือ xEV เพื่อคว้าโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

“อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์สมัยใหม่ที่มีเทคโนโลยีหลากหลาย รัฐบาลและ บีโอไอได้ออกมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการในทุกเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ประสบความสำเร็จ และสามารถเสริมความแข็งแกร่งของไทยในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ของภูมิภาค นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย โดยเฉพาะ SMEs ให้มีบทบาทมากขึ้นใน Supply Chain ระดับโลก ผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่ออกแบบมาเพื่อผู้ประกอบการไทย รวมถึงการจัดกิจกรรมเชื่อมโยงผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยกับบริษัทรถยนต์ระดับโลก เพื่อนำไปสู่การจัดซื้อชิ้นส่วนในประเทศ การถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือการร่วมทุนกันในอนาคต” นายนฤตม์ กล่าว

ที่มา : บีโอไอ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้