X

บีโอไอผนึก KOTRA จัดสัมมนาชี้เป้าลงทุนเซมิคอนดัคเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ดิจิทัล AI ยานยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่

Last updated: 26 พ.ค. 2568  |  241 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บีโอไอผนึก KOTRA จัดสัมมนาชี้เป้าลงทุนเซมิคอนดัคเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ดิจิทัล AI ยานยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่

บีโอไอผนึก KOTRA ดึงลงทุนเกาหลี จัดสัมมนาใหญ่ ชี้เป้าลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ มีผู้บริหารบริษัทชั้นนำเกาหลีเข้าร่วมกว่า 130 ราย ครอบคลุมเซมิคอนดัคเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ดิจิทัลและ AI ยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และเทคโนโลยีชีวภาพ 

บีโอไอ ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (KOTRA) บุกจังหวัดชลบุรี จัดสัมมนาใหญ่ “Thailand Business Essentials: A Comprehensive Guide for Korean Executives” ผู้บริหารบริษัทชั้นนำเกาหลีเข้าร่วมกว่า 130 คน บีโอไอเรียกความเชื่อมั่น ชี้เป้าการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อคว้าโอกาสเติบโตร่วมกัน ท่ามกลางโลกการค้ายุคใหม่


นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา บีโอไอได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (KOTRA) และหอการค้าเกาหลี-ไทย (KTCC) จัดสัมมนาใหญ่ในหัวข้อ “Thailand Business Essentials: A Comprehensive Guide for Korean Executives” ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา จังหวัดชลบุรี พื้นที่ที่มีบริษัทเกาหลีตั้งฐานการผลิตอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนเกาหลี พร้อมอัปเดตนโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุนของไทย นโยบายพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจของรัฐบาล เช่น การจัดทำกลไกพลังงานสะอาด การพัฒนาบุคลากรทักษะสูง การพัฒนาระบบริการภาครัฐในรูปแบบ One Stop Service พร้อมชี้เป้าและโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่เกาหลีเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น เซมิคอนดัคเตอร์และอิเล็กทรอบีโอไอผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

นายพัค ยงมิน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย กล่าวว่า ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางการค้าที่มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น ทั้งการกีดกันการค้าและความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรง ความท้าทายที่เกิดขึ้นนี้ นำมาซึ่งโอกาสใหม่ ๆ  ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา เกาหลีและไทยมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ก้าวหน้าอย่างมาก และมีศักยภาพที่จะขยายโอกาสร่วมกันได้อีก โดยเฉพาะด้านการลงทุน การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานจากอุตสาหกรรมดั้งเดิมสู่อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ยานยนต์ไฟฟ้าและปัญญาประดิษฐ์

ในอนาคตอันใกล้รัฐบาลทั้งสองประเทศจะผลักดันข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (EPA) ระหว่างไทย - เกาหลี ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน ร่วมกับข้อตกลง ASEAN - Korea Free Trade Agreement (AKFTA) และ Regional Comprehensive Economic Partnership (RCEP)

ภายในงาน บีโอไอยังได้เชิญหน่วยงานภาครัฐที่สำคัญ เช่น กรมศุลกากร กรมการจัดหางาน และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมบรรยายเกี่ยวกับการใช้สิทธิประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุน สิทธิประโยชน์ด้านเครื่องจักรและวัตถุดิบ การใช้ระบบการนำเข้า - ส่งออกแบบอิเล็กทรอนิกส์การใช้สิทธิประโยชน์ด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน รวมทั้งกฎหมายแรงงานที่สำคัญ โดยมีผู้บริหารบริษัทเกาหลีที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 130 ราย จากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มยานยนต์ กลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะและเคมีภัณฑ์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ในงานยังมีบริการคลินิกให้คำปรึกษาเป็นรายบริษัท โดยมีบริษัทเกาหลีแสดงความสนใจลงทุนเพิ่มเติมในการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยการใช้ระบบอัตโนมัติในการผลิต รวมถึงขยายการลงทุนเพิ่มในกิจการวิจัยและพัฒนาและกลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะ

“รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบนิเวศในการประกอบธุรกิจ เพื่อทำให้ประเทศไทยมีความพร้อมสำหรับการลงทุน มีความสะดวก ปลอดภัย สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานโลก ที่ผ่านมาเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในนักลงทุนรายสำคัญ และมีความโดดเด่นในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีสูง ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ และดิจิทัล ทั้งยังมีศักยภาพในการเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ๆ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า การแพทย์ และ AI บีโอไอ KOTRA และหอการค้าเกาหลี - ไทย จึงได้ร่วมกันจัดสัมมนาครั้งนี้ เพื่ออัปเดตสถานการณ์และมาตรการส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนเกาหลี และนำไปสู่การตัดสินใจขยายการลงทุนในอนาคต” นายนฤตม์ กล่าว

ปัจจุบันเกาหลีใต้ เป็นคู่ค้าอันดับที่ 13 ของไทย มีมูลค่าการค้ารวมกันประมาณ 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้านการลงทุน บริษัทเกาหลีมีการขยายการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2563 – 2567) มีโครงการจากเกาหลียื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน จำนวน 141 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 63,000 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาสแรกของปีนี้ ตัวเลขการลงทุนจากเกาหลียังคงอยู่ในทิศทางใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา มีการขอรับการส่งเสริม 7 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 1,200 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรและชิ้นส่วน และยานยนต์

ที่ผ่านมามีบริษัทขนาดใหญ่จากเกาหลีใต้ขยายการลงทุนในไทย เช่น HYUNDAI ในกิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า HANON SYSTEMS ในกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ SAMSUNG และ LG ในกิจการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ HANSOL TECHNICS ในกิจการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น


ที่มา : บีโอไอ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้