Last updated: 4 มิ.ย. 2568 | 290 จำนวนผู้เข้าชม |
กรุงเทพมหานคร ตั้งคณะกรรมการดูแลรถยนต์ไฟฟ้า EV –สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า ครอบคลุมทุกมิติความเสี่ยง ขับเคลื่อนการใช้รถ EV อย่างปลอดภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ
รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำหนดมาตรการความปลอดภัยจากการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2568 โดยมี พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า เขตพระนคร เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568
ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ประกอบกับกทม.มีนโยบายสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล และรถโดยสารสาธารณะ เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการใช้รถสันดาปภายใน ดังนั้นจึงได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉินเมื่อเกิดเหตุอัคคีภัยแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) รวมไปถึงสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่าย โดยต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน ทั้งในเรื่องมาตรการป้องกัน การเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ มาตรฐานเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ แผนเผชิญเหตุ และการจัดทำระบบข้อมูลประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานขึ้น เพื่อทำหน้าที่ในการกำหนดมาตรฐาน มาตรการ และแนวทางในการป้องกันและควบคุมอุบัติภัยจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย คณะกรรมการกำหนดมาตรการความปลอดภัยจากการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และคณะทำงาน 3 ด้าน ได้แก่ 1.คณะทำงานด้านกฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัย 2.คณะทำงานด้านการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย 3.คณะทำงานด้านการจัดทำระบบข้อมูลและประชาสัมพันธ์
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาการกำหนดกรอบแนวทางมาตรการความปลอดภัยจากการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครของคณะทำงานทั้ง 3 คณะ โดยคณะกรรมการได้มีข้อสั่งการให้คณะทำงานเพิ่มกรอบหน้าที่การทำงานให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ และให้ทั้ง 3 คณะทำงาน เร่งดำเนินการประชุมหารือเพื่อทบทวนองค์ประกอบของคณะทำงาน รวมถึงจัดทำแผนงานและแนวทางการดำเนินงานตามมาตรการความปลอดภัยให้ครอบคลุมทุกมิติ
ที่มา : กรุงเทพมหานคร
6 มิ.ย. 2568