X

+2,034%! ยอดผลิต BEV พุ่ง 7,512 คัน สูงสุดตั้งแต่ไทยเริ่มทำตลาด BEV

Last updated: 25 ก.ย. 2568  |  181 จำนวนผู้เข้าชม  | 

+2,034%! ยอดผลิต BEV พุ่ง สูงสุดตั้งแต่ไทยเริ่มทำตลาด BEV

ส.อ.ท. เผย เดือน ส.ค. 2568 ยอดผลิต BEV พุ่งแตะ 7,512 คัน เพิ่มขึ้น 2,034% ถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่ไทยเริ่มทำตลาด BEV ยอดขาย BEV ส.ค. 9,309 คัน เพิ่มขึ้น 27.49% ขยับกินส่วนแบ่งตลาด 1 ใน 5 ของยอดขายรถทั้งหมด ยอดจดทะเบียนใหม่ป้ายแดงรถ BEV ส.ค. 2568 เกินหมื่นด้วยยอด 11,486 คัน ขณะที่ PHEV ยอดขายโต 400% และ REEV โต 100% สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคไทยหันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น

ไฮไลต์ :

  • ยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) ตั้งแต่เดือนมกราคม - สิงหาคม 2568 ทะยาน 72,274 คัน หรือ 18.09% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 51.69%
  • ยอดจดทะเบียนใหม่สะสม BEV มกราคม - สิงหาคม 2568 มี 92,665 คัน เพิ่มขึ้นจากมกราคม - สิงหาคมปีที่แล้ว 34.49%
  • ยอดส่งออกรถยนต์นั่ง BEV เดือนมกราคม – สิงหาคม 2568 ทะลุ 2,156 คัน โดยในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
  • รถ BEV ป้ายแดง จดทะเบียนใหม่เดือนสิงหาคม 2568 มีจำนวน 11,486 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว 30.46%
  • ยอดจดทะเบียนสะสม BEV ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2568 มี 318,574 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 59.20%


นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยมียอดผลิตรถยนต์รวม 112,366 คัน ลดลง 6.11% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการผลิตเพื่อส่งออกชะลอตัว อย่างไรก็ตาม การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) พุ่งแตะ 7,512 คัน คิดเป็นเพิ่มกว่า 2,034% จากปีก่อน และถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่ไทยเริ่มทำตลาด BEV

ด้านยอดขายในประเทศ เดือนสิงหาคมมียอดขายรวม 47,622 คัน เพิ่มขึ้น 5.38% โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า BEV ขายได้ 9,309 คัน เพิ่มขึ้น 27.49% ครองสัดส่วนเกือบ 1 ใน 5 ของยอดขายรถทั้งหมด ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) มียอดขายโตถึง 400% และรถยนต์ไฟฟ้าแบบขยายระยะทาง (REEV) โต 100% สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคไทยหันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น



รถไฟฟ้ามาแรง! ส.อ.ท. เผย BEV ไทยเดือนสิงหา ยอดขายทะยาน 9,000 คัน

การผลิต


จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนสิงหาคม 2568 มีทั้งสิ้น 112,366 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2568 ร้อยละ 1.58 แต่ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 6.11 จากการผลิตเพื่อส่งออกที่ลดลงร้อยละ 10.67 จากสิงหาคมปีที่แล้ว เพราะผลิตรถยนต์นั่งลดลงร้อยละ 21.27 จากการเลิกผลิตรถยนต์นั่งบางรุ่นเพราะความเข้มงวดในการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยขับในด้านความปลอดภัยของประเทศคู่ค้า รวมทั้งผลิตรถกระบะส่งออกลดลงร้อยละ 6.36 จากการเข้มงวดในการปล่อยคาร์บอนของประเทศคู่ค้า ส่วนการผลิตเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.11 จากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชดเชยรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามาขายในปี 2565 – 2566

รถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - สิงหาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 947,697 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 5.77
รถยนต์นั่ง เดือนสิงหาคม 2568 ผลิตได้ 43,172 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 7.68 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มี 21,777 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 31.75
  • รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มี 7,456 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 2,018.18
  • รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มี 1,971 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 336.06
  • รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มี 11,968 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 14.83

ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม - สิงหาคม 2568 มีจำนวน 346,240 คัน เท่ากับร้อยละ 36.53 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 7.92 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มี 162,369 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 32.76
  • รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มี 34,998 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 497.54
  • รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มี 12,328 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 207.20
  • รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มี 136,545 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 9.51

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนสิงหาคม 2568 ผลิตได้ 68,410 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 4.95 และตั้งแต่เดือนมกราคม - สิงหาคม 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 595,559 คัน เท่ากับร้อยละ 62.84 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2567 ร้อยละ 3.40 โดยแบ่งเป็น

  • รถกระบะบรรทุก 96,483 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 1.43
  • รถกระบะดับเบิลแค็บ 379,420 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 7.33
  • รถกระบะดับเบิลแค็บ BEV 190 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 100 
  • รถกระบะ PPV 119,466 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 9.39


ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ


เดือนสิงหาคม 2568 ผลิตได้ 38,410 คัน เท่ากับร้อยละ 34.18 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 4.11 และเดือนมกราคม - สิงหาคม 2568 ผลิตได้ 324,628 คัน เท่ากับร้อยละ 34.25 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2567 ร้อยละ 1.69
รถยนต์นั่ง เดือนสิงหาคม 2568 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 24,337 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 6.54 และตั้งแต่เดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ผลิตได้ 212,012 คัน เท่ากับร้อยละ 61.23 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.40

ยอดขาย


ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนสิงหาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 47,622 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2568 ร้อยละ 3.01 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 5.38 จากการขายรถยนต์นั่งไฟฟ้าที่มีถึง 9,246 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.62 จากปีที่แล้ว


  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 9,611 คัน เท่ากับร้อยละ 20.18 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 18.19
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 9,246 คัน เท่ากับร้อยละ 19.42 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 26.62
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 465 คัน เท่ากับร้อยละ 0.98 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 400
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) 244 คัน เท่ากับร้อยละ 0.51 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 100
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 11,231 คัน เท่ากับร้อยละ 23.58 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 30.43
  • รถกระบะมีจำนวน 10,960 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 10.92 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มี 63 คัน ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย


ตั้งแต่เดือนมกราคม - สิงหาคม 2568 รถยนต์มียอดขาย 399,619 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 8 คันจากการขายรถยนต์นั่งไฟฟ้า แยกเป็น


รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 256,669 คันเท่ากับร้อยละ 64.26 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 6.96

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 88,222 คัน เท่ากับร้อยละ 22.08 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 16.96
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 72,274 คัน เท่ากับร้อยละ 18.09 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 51.69
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 6,136 คัน เท่ากับร้อยละ 1.54 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 321.43
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) 431 คัน เท่ากับร้อยละ 0.14 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 100
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 89,606 คัน เท่ากับร้อยละ 22.42 ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.89
  • รถกระบะมีจำนวน 95,560 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 16.94 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 486 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถกระบะ REEV มีจำนวน 6 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 28,110 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 14.82


การส่งออก
รถยนต์สำเร็จรูป 


เดือนสิงหาคม 2568 ส่งออกได้ 71,179 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้วร้อยละ 1.74 และลดลงจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 17.30 จากส่งออกรถกระบะใช้น้ำมันลดลงร้อยละ 14.65 และรถยนต์นั่งที่ใช้น้ำมันลดลงร้อยละ 35.09 เพราะการเข้มงวดในการปล่อยก๊าซคาร์บอนของบางประเทศ
ประเภทรถยนต์ส่งออกเดือนสิงหาคม 2568 แบ่งเป็น ดังนี้

  • รถกระบะ 41,141 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 57.80 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 14.65
  • รถกระบะ BEV 51 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.07 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
  • รถยนต์นั่ง ICE 14,719 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 20.68 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567ร้อยละ 35.09
  • รถยนต์นั่ง BEV 1,372 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 3.01 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออกรถยนต์นั่ง BEV
  • รถยนต์นั่ง PHEV 317 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 9.20 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออกรถยนต์นั่ง BEV
  • รถยนต์นั่ง HEV 3,099 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 4.35 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 11.86
  • รถ PPV 10,480 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 14.72 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 10.21


รถยนต์สำเร็จรูป


เดือนมกราคม – สิงหาคม 2568 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 602,975 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 12.44 แบ่งเป็น

  • รถกระบะ 378,555 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 62.78 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 3.93
  • รถกระบะ BEV 169 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.03 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
  • รถยนต์นั่ง ICE 101,494 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 16.83 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 39.99
  • รถยนต์นั่ง BEV 2,156 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.53 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
  • รถยนต์นั่ง PHEV 317 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 1.26 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
  • รถยนต์นั่ง HEV 33,698 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 5.59 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 2.92
  • รถ PPV 86,586 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 14.36 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 4.59


ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนสิงหาคม 2568 


เดือนสิงหาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 11,486 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 30.46 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 9,782 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 53.42 แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 9,432 คัน รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน 340 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 1 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 9 คัน
  • รถกระบะ รถแวนมี 90 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 61.37
  • รถจักรยานยนต์มี 1,582 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 24.34 เป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลทั้งหมด
  • รถยนต์สามล้อมี 1 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 97.92
  • รถโดยสารมี 19 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 46.15
  • รถบรรทุกมี 12 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 72.09

เดือนมกราคม - สิงหาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสม 92,665 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - สิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 34.49 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 77,036 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 55.18 เป็นรถยนต์นั่ง 75,188 คัน รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน 1,673 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 14 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 161 คัน
  • รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 427 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 13.03
  • รถยนต์สามล้อมีทั้งสิ้น 15 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 88.89
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 14,833 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 18.67 เป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล 14,832 คัน รถจักรยานยนต์สาธารณะ 1 คัน
  • รถโดยสารมีทั้งสิ้น 89 คัน ลดลงเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 62.45
  • รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 265 คัน เพิ่มขึ้นเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ร้อยละ 67.72


ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนสิงหาคม 2568 


เดือนสิงหาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 10,575 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 3.86 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 10,575 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 3.27 แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 10,565 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 6 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 4 คัน 

เดือนมกราคม - สิงหาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 94,703 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - สิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 0.10 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มี 94,009 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2567 ร้อยละ 0.42 แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 93,735 คัน รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน 26 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 142 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 104 คัน รถยนต์บริการให้เช่า 2 คัน
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 694 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2567 ร้อยละ 78.87 เป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลทั้งหมด


ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนสิงหาคม 2568 
เดือนสิงหาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่ 1,049 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 22.83 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 1,049 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 22.83

เดือนมกราคม - สิงหาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  13,681 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - สิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 108.04 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 13,681 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - สิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 108.04 แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 13,653 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 20 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 8 คัน


ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2568


ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 318,574 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 59.20 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 235,979 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 69.70 แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 230,364 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 68.67
  • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนมีจำนวน 4,192 คัน
  • รถยนต์บริการธุรกิจ 223 คัน
  • รถยนต์บริการทัศนาจร 226 คัน
  • รถยนต์บริการให้เช่ามี 3 คัน
  • รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 971 คัน
  • รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 1,298 คัน
  • รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 1,032 คัน
  • รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 76,350 คัน
  • อื่นๆ 
  • รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2,860 คัน
  • รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 1,055 คัน


ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2568
ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 562,894 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 28.66 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 553,004 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 29.14 แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 551,505 คัน รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ 512 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 216 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 318 คัน รถยนต์บริการให้เช่า 7 คัน รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 446 คัน รถกระบะและรถแวน 1 คัน รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 9,887 คัน  

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2568
ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 76,720 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 26.96 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 76,720 คัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 76,641 คัน รถยนต์บริการธุรกิจ 42 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 27 คัน รถยนต์บริการให้เช่า 4 คัน

อ่านฉบับเต็มที่ https://www.fti.or.th/News/details?id=957


ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)








เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้