Last updated: 14 ต.ค. 2568 | 102 จำนวนผู้เข้าชม |
เต็ม 10 ไม่หัก!
ครั้งแรกที่ Bentley ส่งภาพเจ้า EXP 15 Concept แบบเต็มคันว่อนเน็ตก็งั้นๆอยู่นะ แต่พอเปิดท้ายมา...โคตรเจ๋ง นี่มันท้ายรถ EV ระดับซูเปอร์ VVIP ชัดๆ จัดเต็มความหรูหรายิ่งกว่าเฟิร์สคลาสที่ว่าๆกันเสียอีก และไอ้ประโยคที่ว่า “อนาคตของความหรูหรา”...ที่ Bentley ใช้เรียกเจ้าคอนเซ็ปต์คาร์คันนี้ ก็ไม่ได้เกินจริง เพราะ EXP 15 ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อโชว์ดีไซน์เท่ ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็น “ตัวจุดประกาย” ให้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นโปรดักชันคันแรกของแบรนด์ที่จะเปิดตัวในปี 2026
ก่อนเข้าเรื่องขอนินทา “อากู๋” นิ๊ดนึง เพราะตอนวานอากู๋แปลต้นฉบับภาษาอังกฤษให้ อากู๋ดันแปลชื่อรุ่น “EXP” ว่า “หมดอายุ 15” หน้าตาเฉย ซึ่งมันเป็น “ตลกร้าย” สไตล์ผู้ดีอังกฤษแบบโคตรจะร้ายลึก พูดก็พูดเถอะ ใครจะเอาคำว่า “วันหมดอายุ” มาตั้งชื่อรถระดับคอนเส็ปท์คาร์...555
พอเห็นคำว่า EXP หลายคนอาจเผลอคิดถึง “Expired” ก่อน แต่ในโลกของ Bentley (และวงการรถคอนเซ็ปต์โดยเฉพาะอังกฤษ) คำนี้มีรากความหมายที่ลึกและ “ผู้ดี” กว่านั้นเยอะมาก
ความหมายจริงของ “EXP” ในภาษา Bentley
ในระบบการตั้งชื่อของ Bentley - EXP ย่อมาจาก “Experimental” ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่สืบมาตั้งแต่ยุค Bentley Motors ก่อตั้งในปี 1919
ตัวอักษร “EXP” หมายถึง “รถต้นแบบทดลอง” โดยมีตัวเลขที่ตามมา เช่น EXP 2, EXP 10…
EXP 15 คือ “ลำดับของการพัฒนา” ใช้เฉพาะกับรถที่ Bentley ใช้เป็นสนามทดลองเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก่อนถึงรุ่นโปรดักชัน เช่น
Bentley EXP 2 (ปี 1920) → รถแข่งรุ่นแรกของแบรนด์
Bentley EXP Speed 8 (ปี 2003) → รถแข่ง Le Mans ชนะเลิศ
Bentley EXP 10 Speed 6 (ปี 2015) → คอนเซ็ปต์ GT ที่ปูทางสู่ Continental GT รุ่นใหม่
Bentley EXP 15 Concept (ปี 2025) → ตัวแทนยุคไฟฟ้า (EV Era)
ดังนั้น EXP = “Experimental Vehicle” ไม่ใช่วันหมดอายุ แต่คือ “จุดเริ่มต้นของยุคใหม่”...ตรงข้ามกันแบบคนละขั้ว เป็นมุมมองแบบผู้ดีอังกฤษ ที่ลึกซึ้งจริง ๆ เพราะคนอังกฤษชอบความหมายซ้อนเชิงวรรณศิลป์
คำว่า “Experimental” ยังสื่อถึงแนวคิดเชิงศิลป์ (Artistic Experimentation) — การทดลองสร้างสรรค์สิ่งใหม่ โดยยังเคารพรากเดิมของตนเอง Bentley เลยใช้ EXP เพื่อบอกว่า “เรายังคงเป็น Bentley ที่คุณรู้จัก แต่กำลังทดลองสิ่งที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน”
หรือพูดอีกแบบ : ถ้า “EXP” ในโลกทั่วไปหมายถึง “จุดสิ้นสุดของเวลา” แต่ “EXP” ในโลกของ Bentley กลับหมายถึง “จุดเริ่มต้นของตำนานบทใหม่”...the brand’s first full-electric production car
คอนเซ็ปต์การสร้าง: Magical Fusion - กายภาพหลอมรวมดิจิทัล
Bentley เรียกแนวคิดหลักของ EXP 15 ว่า “Magical Fusion” — การหลอมรวมระหว่างโลกจริงกับโลกดิจิทัลจนแทบไม่มีเส้นแบ่ง
จุดนี้สะท้อนชัดที่สุดในห้องโดยสารที่ “หน้าจอดิจิทัล” ผสานเข้ากับ “กลไกจริง” แบบ Mechanical Marvel - หน้าจอที่สามารถเป็นได้ทั้งอินโฟเทนเมนต์แบบล้ำๆ หรือจะดับแสงให้กลายเป็นไม้แท้เนียนเรียบแบบรถคลาสสิกก็ได้
อีกแนวคิดที่สำคัญคือ “Prestigious Shield” สัญลักษณ์แห่งความสง่างามที่ดีไซน์ด้านท้ายรถให้เหมือน “โล่แห่งเกียรติยศ”...นี่คือจิตวิญญาณของ Bentley ยุคใหม่ที่อยากให้รถ “หรูหราในแบบที่มีชีวิต”
แพลตฟอร์มและเทคโนโลยีไฟฟ้า
แม้ EXP 15 จะยังเป็นรถต้นแบบ (Prototype) แต่เบื้องหลังมันคือเวทีทดลองของ Bentley สำหรับ แพลตฟอร์ม EV เจเนอเรชันแรก ที่จะใช้ในรถโปรดักชันปี 2026 โดยระบบขับเคลื่อนจะเป็น All-Wheel Drive (AWD) ด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หนึ่งตัวอยู่ด้านหน้า อีกตัวอยู่ด้านหลัง พละพลังรวมประมาณ 600–700 แรงม้า แรงบิดราว 1,000 นิวตันเมตร
และคาดว่าใช้ระบบไฟ 800 โวลต์ เพื่อรองรับการชาร์จเร็วระดับ 350 kW DC Fast Charge
แบตเตอรี่และระยะทาง ความจุแบตเตอรี่คาดว่าอยู่ราว 100–110 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุดประมาณ 600–650 กม./ชาร์จ (WLTP) รองรับการชาร์จเร็ว DC จาก 10–80% ภายใน 20–25 นาที ชาร์จ AC ที่บ้านใช้เวลาราว 8 ชั่วโมง ตำแหน่งแบตเตอรี่: วางใต้พื้นแบบ Skateboard Platform เพื่อบาลานซ์น้ำหนักและลดจุดศูนย์ถ่วง
มอเตอร์แต่ละตัวน่าจะเป็นแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor (PMSM) ซึ่งให้แรงบิดทันทีและเงียบมาก เหมาะกับแนวหรูหราสงบแต่ทรงพลังแบบ Bentley
สมรรถนะ 0–100 กม./ชม. < 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุดราว 250 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย: ราว 18–20 kWh/100 กม.
ดีไซน์ภายนอก: เมื่อ “Blue Train” กลับมาเกิดใหม่
Bentley EXP 15 คือการรำลึกถึงตำนาน Bentley Speed Six “Blue Train” (1930) รถที่เคยแข่งกับรถไฟด่วนจากฝรั่งเศสไปอังกฤษและชนะ! ทีมออกแบบนำ DNA ของรุ่นนั้นมาถ่ายทอดผ่านเส้นสายที่สง่างามและทรงพลัง
ไฮไลต์งานออกแบบภายนอก
Upright Elegance – กระจังหน้าทรงตั้งชัน สื่อถึงความสง่าแบบผู้ดีอังกฤษ
Iconic Grille – ตีความกระจังหน้าคลาสสิกใหม่ด้วย “แสง” LED แบบ Digital Art
Endless Bonnet Line – ฝากระโปรงหน้าที่ยาว “ไร้จุดสิ้นสุด” เหมือนจะพุ่งทะลุเวลา
Resting Beast – ช่วงท้ายบึกบึนแบบกล้ามเสือ บ่งบอกพลังที่ซ่อนอยู่
Prestigious Shield – พื้นผิวท้ายเรียบสะอาด ประดับตรา Winged B โลโก้ใหม่ของ Bentley
มาพร้อมเทคโนโลยี ไฟหน้า LED 4 ชั้น, สปอยเลอร์แอคทีฟคู่, และ ดิฟฟิวเซอร์แอโร่ไดนามิกแบบปรับได้ ตัวถังยาวกว่า 5 เมตร มีมิติแบบ “สปอร์ตซีดานยกสูง” (Elevated Sedan) ที่ให้ทั้งภาพลักษณ์หรูและทรงพลัง
ดีไซน์ภายใน: ห้องโดยสารแห่งโลกอนาคต
ภายในของ EXP 15 ถูกออกแบบใน Virtual Reality Studio ทั้งหมด คือไม่ได้สร้างแค่โมเดลจริง แต่จำลองประสบการณ์แบบ VR เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกบรรยากาศได้ตามอารมณ์
จุดเด่นภายใน 3 ที่นั่งแบบ 3 ประตู ฝั่งคนขับมีประตูเดียว ฝั่งผู้โดยสารมี Coach Door แบบปีกนกเปิดออก
เบาะผู้โดยสารหมุนได้ 45 องศา เพื่อการ “ลงจากรถอย่างมีศักดิ์ศรี” (จริง ๆ Bentley ใช้คำว่า “The art of arrival”)
ฟังก์ชัน Co-Pilot / Relax Mode / Standard Mode ที่ปรับตำแหน่งเบาะและพื้นที่ขาได้อิสระ
Concertina Floor Storage ที่พื้นสามารถพับเป็นที่เก็บของหรือพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงได้
ท้ายรถดีไซน์ให้กลายเป็นที่นั่งปิกนิก + ตู้เย็น + โคมไฟหรู สำหรับงานเลี้ยงแบบ Luxury Tailgate…โคตรเจ๋ง เป็นท้ายรถ EV ที่เต็มไปด้วยความหรูหรา มีคลาสสุดๆ และประโยคที่ว่า “อนาคตของความหรูหรา” ก็ไม่น่าจะเกินจริงซักเท่าไหร่
วัสดุและบรรยากาศ
ใช้วัสดุคลาสสิกแบบอังกฤษแท้ เช่น ผ้าขนสัตว์จาก Fox Brothers (ที่มีตำนานกว่า 250 ปี)
ผสมกับ Titanium พิมพ์ 3 มิติ, ไม้จริง, และ หินบาง
โทนภายใน “Damson Ombre” สีม่วงไวน์ไล่เฉดจากเข้มไปอ่อน
เทคโนโลยีในรถและระบบอัจฉริยะ
EXP 15 คือโชว์เคสของ “UX ที่คิดแทนคนขับ” ระบบภายในทั้งหมดถูกควบคุมผ่านจอหลักแบบ Full Glass Dashboard ที่ปรับได้ 3 โหมด:
Digital Mode – แสดงข้อมูลการขับ, แผนที่, สถานะแบตเตอรี่
Mechanical Mode – แสดงกลไก Mechanical Marvel แบบ Analog สุดหรู
Fusion Mode – ผสานทั้งสองโลกไว้ในหน้าจอเดียว
ตัว Mechanical Marvel นี้คือ “เข็มกลไกอัจฉริยะ” ที่หมุนบอกทิศทาง การชาร์จ และสถานะต่าง ๆ แบบ kinetic sculpture
ช่วงล่าง ยาง และระบบความปลอดภัย
ระบบช่วงล่างคาดว่าเป็น Adaptive Air Suspension ปรับความสูงอัตโนมัติ
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะพร้อม Torque Vectoring
ระบบเบรกไฟฟ้า-ไฮบริด
ยางและล้อดีไซน์เฉพาะ Bentley “Diamond Pattern” ขนาด 22–23 นิ้ว
ระบบความปลอดภัยระดับสูงใส่มาครบ เช่น LIDAR + Radar Sensor สำหรับขับขี่อัตโนมัติ / ระบบควบคุมเสถียรภาพด้วย AI / ระบบป้องกันการชนแบบ Predictive Safety Assist
มิติตัวรถ ความยาว: 5,000+ มม. กว้าง: 2,000 มม. สูง: 1,450 มม. ระยะฐานล้อ: ~3,100 มม. น้ำหนักรวม (ประมาณ): 2.5 ตัน
สรุป: Bentley EXP 15 คือการประกาศศักดา “ยุคไฟฟ้า” ของรถผู้ดีอังกฤษ
EXP 15 ไม่ใช่แค่รถต้นแบบ แต่คือ “สัญลักษณ์ของการเปลี่ยนยุค” ของ Bentley...จากความหรูหราที่เคยขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ W12 สู่อาณาจักรใหม่ของพลังไฟฟ้า และปีหน้า ปี 2026 รถโปรดักชันรุ่น EV คันแรกของ Bentley ที่เกิดจากแรงบันดาลใจของ EXP 15 จะเป็นเหมือน “Blue Train” คันใหม่...ไม่ได้แข่งกับรถไฟอีกต่อไป แต่แข่งกับ “เวลา” และ “โลกใหม่แห่งพลังงานสะอาด”
ที่มา : Bentleymotors.com