Last updated: 16 ธ.ค. 2568 | 479 จำนวนผู้เข้าชม |
สำรวจศูนย์กระจายอะไหล่ Toyota Parts Center Asia Pacific (TPCAP) และศูนย์บริการโตโยต้า วันนี้พร้อมรองรับการบริการรถยนต์อย่างครอบคลุมทั้งรถยนต์สันดาป รถ HEV , PHEV และ BEV
Toyota Parts Center Asia Pacific (TPCAP) นับเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญด้านการให้บริการหลังการขายของโตโยต้า โดยศูนย์ฯ มีศักยภาพในการบริหารจัดการอะไหล่แท้มากกว่า 120,000 รายการ และมีจำนวนชิ้นส่วนจัดเก็บรวมกว่า 1 ล้านชิ้น ภายในพื้นที่ปฏิบัติงานกว่า 80,000 ตารางเมตร ศักยภาพดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อรถยนต์หนึ่งคัน ที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนกว่า 30,000 ชิ้น ครอบคลุมทั้งอะไหล่สิ้นเปลืองสำหรับการเช็กระยะ อะไหล่ซ่อมเบา และอะไหล่ซ่อมหนัก

ศูนย์กระจายอะไหล่แห่งนี้จึงเป็นหลักประกันสำคัญที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ทุกครั้งที่มีความต้องการด้านการซ่อมบำรุงจะได้รับ อะไหล่แท้โตโยต้า ที่มีคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน สดใหม่จากโรงงาน และจำหน่ายในราคาที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ผ่านระบบการบริหารจัดการคลังสินค้าที่แม่นยำและน่าเชื่อถือ พร้อมให้บริการจัดส่งอะไหล่ทั่วประเทศภายในวันแรกสำหรับเขตกรุงเทพฯ และวันถัดไปสำหรับพื้นที่ต่างจังหวัด
การบริหารจัดการอะไหล่อย่างเป็นระบบของ “โตโยต้า” จะช่วยขจัดความกังวลใจเรื่องการรออะไหล่นาน และส่งมอบประสบการณ์การซ่อมบำรุงที่กระชับฉับไว เพื่อให้ลูกค้าได้รับรถกลับไปใช้งานได้ในเวลาไม่นาน
(ข้อมูลตัวเลขเป็นข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2025 และอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามการบริหารจัดการของบริษัท)
ทั้งนี้ภายใน “ศูนย์กระจายอะไหล่ TPCAP” มีการวางระบบหารบริหารจัดการอย่างไร ถึงได้มีบริการที่รวดเร็ว และสามารถครองใจผู้ใช้รถยนต์ในประเทศไทยในเรื่องการบริการมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน มาดูกัน...

1. Quality Dojo – ห้องอบรมมาตรฐานคุณภาพของโตโยต้า
Quality Dojo เป็นห้องอบรมสำหรับพนักงานฝ่ายคลังอะไหล่ ซึ่งเน้นการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับมาตรฐานคุณภาพก่อนลงปฏิบัติงานจริง รวมถึงมีการ Re-Training อย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการทำงาน
ภายในห้องอบรมมีการจำลองสถานการณ์การทำงานจริง เช่น
• การหยิบอะไหล่จากพื้นที่จัดเก็บ
• การตรวจสอบอะไหล่และแพ็คเกจตามขั้นตอนที่กำหนด
• การเตรียมอะไหล่สำหรับการจัดส่ง
• การจัดเก็บอะไหล่ตามหลัก 7 Techniques ของโตโยต้า
ทั้งหมดนี้ช่วยให้พนักงานปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องและเป็นระบบ ซึ่งส่งผลให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าอะไหล่ที่ผ่านการจัดการตามกระบวนการมาตรฐานของโตโยต้าจะถูกส่งมอบด้วยคุณภาพที่ได้รับการตรวจสอบอย่างเหมาะสม

2. Safety Dojo – ห้องอบรมมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน
โตโยต้ายึดหลัก “ความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง” ในทุกขั้นตอนการทำงาน โดย Safety Dojo ถูกออกแบบมาเพื่อให้พนักงานเรียนรู้หลักปฏิบัติที่ช่วยลดความเสี่ยงในการทำงานในคลังอะไหล่ ทั้งยังช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวอะไหล่อย่างไม่ตั้งใจ ทำให้มั่นใจได้ว่าอะไหล่ทุกชิ้นที่ส่งออกจากคลังไปยังศูนย์บริการจะคงสภาพสมบูรณ์
ภายในห้องอบรมประกอบด้วยฐานการสาธิต (Simulation) เช่น
• การใช้ถุงมือและอุปกรณ์ป้องกันอย่างถูกต้อง
• ท่าทางการยกอะไหล่ตามหลัก Ergonomics
• การจำลองมุมมอง (Visibility) ขณะขับรถโฟล์คลิฟต์
กิจกรรมทั้งหมดเป็นการสาธิตเพื่อฝึกทักษะและสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัย ให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานที่บริษัทกำหนด

3. ระบบการจัดส่งอะไหล่ภายในประเทศ
ศูนย์อะไหล่โตโยต้าดำเนินงานภายใต้ระบบจัดการชิ้นส่วนที่เป็นระเบียบแบบแผน โดยอ้างอิงกระบวนการภายใต้มาตรฐานของเครือข่ายศูนย์อะไหล่โตโยต้าทั่วโลก ซึ่งช่วยให้สามารถจัดส่งอะไหล่กว่า 120,000 ชิ้นต่อวันไปยังศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศ เพื่อให้งานซ่อมบำรุงที่ศูนย์บริการแต่ละแห่งดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ลดระยะเวลาที่ลูกค้าต้องจอดรถรอซ่อม และการันตีว่าลูกค้าจะได้รับรถกลับไปใช้งานได้ตามเวลานัดหมาย

กระบวนการจัดส่งประกอบด้วยขั้นตอนหลัก ได้แก่
1. รับออเดอร์จากศูนย์บริการ
2. พิมพ์ใบหยิบอะไหล่ (Picking Slip) สำหรับพนักงานจัดเตรียมอะไหล่
3. Picking – การหยิบอะไหล่จากพื้นที่จัดเก็บ
4. Check Sort – การตรวจสอบเบอร์และจำนวนชิ้นของอะไหล่
5. การนำอะไหล่ขึ้นรถเพื่อจัดส่งต่อไปยังศูนย์บริการ
สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลสามารถจัดส่งได้ภายในวัน ตามเงื่อนไขการให้บริการในแต่ละพื้นที่ ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดจะอยู่ภายในประมาณ 2 วัน ทั้งนี้ระยะเวลาจัดส่งอาจแตกต่างกันตามสภาพการขนส่งและปัจจัยอื่น ๆ

4. การจัดการพื้นที่จัดเก็บอะไหล่
ศูนย์อะไหล่โตโยต้ามีอะไหล่พร้อมบริการมากกว่า 1 ล้านชิ้น ครอบคลุมตั้งแต่
• อะไหล่งานเช็กระยะ
• อะไหล่งานซ่อมเบา
• อะไหล่งานซ่อมหนัก
รวมถึงชิ้นส่วนสำคัญ เช่น Hybrid Battery และ EV Battery

พื้นที่จัดเก็บแบ่งตามประเภทอะไหล่ ได้แก่
• Small & Tiny Parts (อะไหล่ขนาดเล็ก)
• Medium Parts (อะไหล่ขนาดกลาง)
• KP & Body Parts (อะไหล่ขนาดใหญ่)
ในส่วนของการแยกโซนจัดเก็บตามขนาดและลักษณะของอะไหล่ จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความแม่นยำในการค้นหา ลดระยะเวลารอคอยของลูกค้า อีกทั้งยังช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการจัดเก็บอะไหล่ชิ้นใหญ่และหนักปะปนกับชิ้นเล็ก เพื่อให้มั่นใจว่าอะไหล่ทุกชิ้นจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด
ทุกพื้นที่ใช้ระบบ FIFO (First In First Out) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วน และทำให้ระบบการหมุนเวียนสต็อกมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ โตโยต้ามีการจัดเก็บอะไหล่รองรับรถแต่ละรุ่น เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่ามีความพร้อมของอะไหล่รองรับการใช้งานตลอดอายุรถของโตโยต้า (ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด)
หมายเหตุ : ข้อมูลภายในเอกสารฉบับนี้อ้างอิงข้อมูลจากฝ่าย Parts Logistics ณ เดือนพฤศจิกายน 2025 และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามการบริหารจัดการและนโยบายของบริษัท

อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญด้านการบริการหลังการอย่างศูนย์ Toyota Parts Center Asia Pacific (TPCAP) จะไม่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าหากปราศจากศูนย์บริการที่ดีมีมาตรฐานระดับสากลมารองรับ ซึ่งศูนย์บริการโตโยต้า ได้ผ่านการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องยาวนานจนลงตัวด้วยแนวทาง TOYOTA TRUSTED SERVICE: มากกว่าการบริการ....... คือความไว้วางใจ
นอกจากการนำเสนอรถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแล้ว โตโยต้ามุ่งเน้นการบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความอุ่นใจในการใช้งานระยะยาวด้วยมาตรฐานการบริการระดับสากล ที่ผสานความเชี่ยวชาญของทีมงานมืออาชีพ เข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ให้พร้อมดูแลรถยนต์ทุกคันอย่างพิถีพิถันและเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “การสร้างประสบการณ์สุดประทับใจ ที่เป็นมากกว่าการดูแลรักษารถยนต์”
แนวคิดดังกล่าวนั้นสะท้อนผ่านมาตรฐานการบริการที่สร้าง “5 ความมั่นใจจากโตโยต้า” ที่ลูกค้าสามารถสัมผัสได้จริง และพร้อมไว้วางใจโตโยต้าให้ดูแลทุกการเดินทางอย่างอุ่นใจ

1. มั่นใจ…ช่างเชี่ยวชาญ TRUST in Professionalism
ที่ศูนย์บริการโตโยต้า ช่างทุกคนต้องผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมโตโยต้าตามมาตรฐานญี่ปุ่น พร้อมการพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ๆ เช่น HEV และ EV
ยิ่งไปกว่านั้น โตโยต้ายังมีหลักสูตรพัฒนาช่างที่มีประสบการณ์สูง (เฉลี่ย มากกว่า15 ปีขึ้นไป) โดยฝึกปฏิบัติจากการเคสจำลองในการวิเคราะห์ปัญหาจริงเพื่อยกระดับเป็น “เจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาด้านเทคนิค หรือ Technical Advisor (TA)“ พร้อมให้บริการวิเคราะห์รถยนต์ทุกศูนย์บริการทั่วประเทศด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ปัญหาอัจฉริยะ GTS+ – Global Tech Stream Plus ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมองกลของรถเพื่อตรวจหาจุดผิดปกติอย่างแม่นยำ ภายใต้แนวคิด “Fix It Right, Fix It Fast” รวมถึงฐานข้อมูลความรู้ที่อัพเดทและการสนับสนุนงานการวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว Remote Diagnosis &Fast lane ร่วมกับบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
ปัจจุบันศูนย์บริการโตโยต้าทุกแห่งมีความพร้อมรองรับงานซ่อมรถยนต์ไฮบริดและรถไฟฟ้า ด้วยเครื่องมือเฉพาะทาง ทั้งยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้าที่พร้อมให้บริการทุกศูนย์


2. มั่นใจ…อะไหล่แท้คุณภาพ TRUST in Quality
มั่นใจอะไหล่แท้ และคุณภาพดีที่สุด ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับรถโตโยต้า และสร้างความมั่นใจด้วยการรับประกันอะไหล่ 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
พร้อมระบบจัดการอะไหล่ตามมาตรฐาน Toyota Global Standard พร้อมให้บริการจัดส่งอะไหล่ทั่วประเทศภายในวันสำหรับเขตกรุงเทพฯ และวันถัดไปสำหรับพื้นที่ต่างจังหวัด และบริการเปลี่ยนยาง โตโยต้ามีดีลกับบริษัทผู้ผลิตชั้นนำในตลาด ด้วยสต็อคยางที่ผลิตมาสดใหม่ เพื่อรองรับลูกค้าที่เข้ามารับบริการ

3. มั่นใจ…งานซ่อมรวดเร็ว แม่นยำ TRUST in Speedy with Accuracy
โตโยต้าพร้อมมอบบริการเช็กระยะที่รวดเร็วผ่าน Express Maintenance (EM) ที่เสร็จภายใน 60 นาที (ยกเว้นงานเช็กระยะหนัก ทุก 40,000 กิโลเมตร) ด้วยขั้นตอนปฏิบัติงานมาตรฐาน พร้อมการตรวจสอบคุณภาพด้วยช่างผู้เชี่ยวชาญตลอดกระบวนการ โดยเน้นย้ำการทำงานตามหลักการ Toyota Production System หรือ TPS ทำให้การทำงานครบถ้วนและรวดเร็ว รวมทั้งการใช้ตู้เครื่องมือพิเศษเพื่อช่วยให้การทำงานของช่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
ลูกค้าจะทราบราคาและอนุมัติก่อนเริ่มซ่อมเสมอ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงใดๆ และช่วยให้ลูกค้าเข้าใจงานซ่อมได้อย่างชัดเจนและตัดสินใจได้อย่างคุ้มค่า ผ่านการแนะนำรายการตรวจเช็ก อะไหล่ โปรโมชั่น และสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับลูกค้าแต่ละรายได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดด้วยระบบข้อมูลกลาง และการนำเสนอผลการตรวจสภาพรถด้วยภาพถ่ายชิ้นส่วนอะไหล่ที่ควรเปลี่ยนจากช่าง และภาพ 3 มิติประกอบการอธิบาย ผ่านระบบ Customer-centric Service (Next-Gen Service)

4. มั่นใจ…บริการสะดวก ครบจบที่เดียว TRUST in Convenience
โตโยต้ามอบความสะดวกสบายเต็มรูปแบบ ด้วยบริการแจ้งเตือนเช็กระยะและนัดหมายผ่าน Call Center สะดวกยิ่งขึ้นด้วยการนัดหมายออนไลน์ที่กำหนดได้เอง ผ่านเว็บไซต์ Toyota, แอปพลิเคชัน T-Connect และ Toyota LINE Official พร้อมบริการแจ้งข้อมูลและช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Toyota Contact Center โทร. 1486 ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ สะดวก ง่าย มั่นใจไม่พลาดทุกสิทธิประโยชน์ รวมทั้งได้รับการดูแลที่ตรงทุกความต้องการอย่างแท้จริง โดยระหว่างรอซ่อมลูกค้าสามารถใช้บริการห้องพักลูกค้าที่สะดวกสบาย และตรวจสอบสถานะงานซ่อมแบบ Real-time ผ่านมือถือ
นอกจากนั้น โตโยต้ายังมีการบริการที่หลากหลาย ครบจบในที่เดียว (One Stop Service) ตั้งแต่งานเช็กระยะ งานซ่อมทั่วไป และงานซ่อมตัวถังและสี รวมทั้งมีบริการเปลี่ยนยาง แบตเตอรี่ และเคมีภัณฑ์ทางเลือกต่างๆ เพื่อดูแลรักษารถลูกค้าอย่างมืออาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริการเปลี่ยนยางที่คุ้มค่า ด้วยแบรนด์ชั้นนำที่หลากหลาย หมดกังวลเรื่องยางค้างสต๊อก เพราะยางที่ศูนย์โตโยต้าเป็นยางผลิตใหม่ ส่งตรงจากซัพพลายเออร์ และสิทธิประโยชน์ที่ครบครัน อาทิเช่น การรับประกันอุบัติเหตุยาง นาน 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) ฟรีค่าแรง เปลี่ยนยาง ตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ และสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://aftersales.toyota.co.th/promotion/2025-yearend-tire

สำหรับงานซ่อมตัวถังและสี มีการใช้สีน้ำสูตรเดียวกับโรงงาน ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รับประกันอะไหล่แท้ พร้อมด้วยเทคโนโลยีการซ่อมตัวถังที่มีความแม่นยำสูง เพื่อคืนสภาพรถให้กลับมามีสภาพใกล้เคียงเหมือนใหม่ทั้งรูปลักษณ์และความปลอดภัย เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าทุกครั้งที่นำรถเข้ารับบริการ ทางโตโยต้ามีเป้าหมายการทำงานร่วมกับประกันภัยในการอนุมัติงานซ่อมแบบออนไลน์เพื่อนำมาซึ่งความรวดเร็ว รวมถึงมีการยืนยันกับลูกค้าก่อนการซ่อมทุกครั้ง เช่นเดียวกับมาตรฐานการประเมินราคา ที่ทางโตโยต้ามีการนำพื้นที่ความเสียหาย ความยากง่ายของการซ่อม มาเป็นส่วนสำคัญในการคำนวณค่าใช้จ่าย ทำให้ทุกศูนย์บริการมีมารตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
5. มั่นใจ…คุ้มค่าด้วยสิทธิประโยชน์ TRUST in Value
โตโยต้ามุ่งมั่นส่งมอบบริการพร้อมด้วยสิทธิประโยชน์ที่ให้ความคุ้มค่าในทุกการใช้จ่าย
เพียงลูกค้าเข้าเช็กระยะที่ศูนย์บริการโตโยต้าอย่างต่อเนื่อง รับสิทธิประโยชน์มากมายที่เพิ่มขึ้นจากโปรแกรม TCFR Plus+ ไม่ว่าจะเป็น การขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์สูงสุด 8 ปี ส่วนลดอะไหล่และเคมีภัณฑ์งานเช็กระยะสูงสุด 15% คะแนน Alive-X พิเศษสูงสุด 2.5 เท่า และ รับส่วนลดสูงสุด 40,000 บาท เมื่อซื้อรถยนต์ใหม่คันถัดไป
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://aftersales.toyota.co.th/tcfrplus/