Last updated: 22 ส.ค. 2566 | 419 จำนวนผู้เข้าชม |
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดจองสิทธิ์ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV รับจอง ORA Good Cat เพิ่มเติมในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 44 มั่นใจจะนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า 6 พันคันภายในเดือนมิถุนายนนี้
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยกขบวนพาเหรดยนตรกรรมไฟฟ้า (xEV) นวัตกรรมการขับขี่แห่งอนาคตทุกรุ่นจัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 44 พร้อมเปิดจองสิทธิ์เพื่อซื้อ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV รถยนต์เรือธงรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ TANK ก่อนการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการครั้งแรก รวมทั้งเดินหน้าเปิดรับจอง ORA Good Cat เพิ่มเติม ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 โดยมีคณะผู้บริหารระดับสูงนำโดย มร. ไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) และ นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ภาพรวมความสำเร็จ รวมถึงแนะนำ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV รถยนต์เอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมที่ถูกนำมาจัดแสดงไว้ภายในงาน
ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเปิดให้มีการจองสิทธิ์เพื่อซื้อ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษก่อนการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการภายใต้แพ็กเกจ Value Plus ลูกค้าสามารถจองสิทธิ์ซื้อได้ในราคาเพียง 5,000 บาท จากมูลค่าสิทธิประโยชน์รวมสูงกว่า 60,000 บาท โดยมีรายละเอียดของแพ็กเกจดังต่อไปนี้
ผู้ที่สนใจสามารถจองสิทธิ์เพื่อซื้อแพ็กเกจ Value Plus ได้ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 เวลา 18.00 น. โดยลูกค้าจะต้องชำระเงินมัดจำจำนวน 10,000 บาท ระหว่างวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 เวลา 20.00 น. ถึงวันที่ 18 มิถุนายน 2566 เวลา 23.59 น. และรับรถภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 เพื่อรับสิทธิ์ดังกล่าว
นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวแสดงความมั่นใจในรถยนต์เรือธงรุ่นแรกอย่าง All New GWM TANK 500 Hybrid SUV จากเกรท วอลล์ มอเตอร์ หลังแบรนด์ TANK ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในจีน ด้วยยอดขายสูงถึง 200,000 คันในปีที่ผ่านมา
“All New GWM TANK 500 Hybrid SUV – Nothing is Unreachable เป็นรถยนต์จะมาสร้างความตื่นเต้น ความแตกต่าง และประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้กับตลาดรถยนต์เอสยูวีและผู้บริโภคชาวไทย TANK เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของ 4 ได้แก่ T – คือ Tough ทรหด อดทน ผจญทุกอุปสรรค, A – Ambitious มุ่งมั่น ไม่หยุดนิ่ง ก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ, N – Normal เรียบง่าย เข้าถึงได้ เป็นตัวของตัวเอง แต่แฝงไว้ด้วย K – Kind ความดีงามของจิตใจ ความอ่อนโยน คิดถึงคนรอบข้าง โดยเราเชื่อมั่นว่า DNA ของ TANK ที่มีความบึกบึน ทรหด แต่เปี่ยมไปด้วยความเรียบหรู สง่างาม จะพาผู้บริโภคชาวไทยผ่านพ้นอุปสรรคทุกอย่างไปได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย”
นอกจากไฮไลท์รถยนต์เอสยูวีออฟโรดพรีเมียมสำหรับผู้ขับขี่สายลุยยุคใหม่ อย่าง All New GWM TANK 500 Hybrid SUV ที่เตรียมเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้แล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังจัดแสดงรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีสุดล้ำจาก แบรนด์ HAVAL ไม่ว่าจะเป็น All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ที่เพิ่งคว้ารางวัล “BEST HYBRID SUV UNDER 1,600 C.C” จากงานประกาศรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี “CAR & BIKE OF THE YEAR 2023”
พร้อมด้วยทัพรถยนต์ยอดนิยมอีก 4 รุ่นอย่าง New HAVAL H6 Hybrid SUV ที่ครองตำแหน่งผู้นำในเซ็กเมนต์คอมแพคเอสยูวีอย่างต่อเนื่อง, HAVAL JOLION Hybrid SUV เจ้าสิงโตอารมณ์ดีที่มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย, ORA Good Cat รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่จุดกระแสตลาดรถยนต์ไฟฟ้าให้กับชาวไทยและได้รับความนิยมจากคนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดตัวสีใหม่สุดน่ารัก Pistachio Green และ ORA Good Cat GT เจ้าเหมียวสปอร์ตไฟฟ้าดีไซน์โดดเด่นด้วยสมรรถนะอันเร้าใจ
หลังจากที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ประกาศเปิดรับจอง ORA Good Cat อีกครั้งเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ORA GOOD CAT ได้รับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้น ด้วยตัวเลขการสั่งจองมากกว่า 3,000 คัน สะท้อนถึงความสำเร็จอีกขั้นของการสร้างสรรค์ และการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมตอกย้ำความพร้อมสู่การก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยภายในสิ้นเดือนเมษายน จะมีรถที่นำเข้าและมาอยู่ในประเทศไทยถึง 3,000 คัน และเพิ่มเป็นทั้งสิ้น 6,000 คันภายในเดือนมิถุนายน ตอบรับกับกระแสนิยมของ ORA Good Cat ท่ามกลางกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยที่ได้ให้ความไว้วางใจและรอคอยการกลับมาของน้องเหมียวไฟฟ้า
สำหรับการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ นั้น มร. ไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ย้ำว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์ที่ “แตกต่าง” เพื่อสร้างการแข่งขันอย่างยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศ และส่งมอบทางเลือกผลิตภัณฑ์ การบริการ และประสบการณ์ต่าง ๆ โดยให้ความสำคัญกับการพลังงานทางเลือกใหม่ในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการขับขี่ที่จะถูกถ่ายทอดออกมาให้เห็นผ่านรถยนต์อัจฉริยะ 5 รุ่นที่ทางบริษัทฯ ได้เปิดตัวแล้ว และเตรียมเปิดตัวในตลาดประเทศไทยภายในปีนี้
“เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะ ‘บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก’ ตั้งเป้าเป็นแบรนด์เพื่อผู้ขับขี่รถยนต์อย่างแท้จริง ในปีที่ผ่านมา มีแฟน ๆ และผู้ขับขี่รถยนต์ GWM เกือบ 40,000 คนเข้าร่วมกิจกรรมกับเรา รวมแล้วกว่า 400 กิจกรรม สะท้อนให้เห็นว่า เรามีส่วนร่วมกับลูกค้าในเชิงรุกมาโดยตลอด นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเป็นแบรนด์ที่มีผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดียที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ด้วยยอดผู้ติดตามกว่า 1.2 ล้านคน ในตลาดโลก GWM ประสบความสำเร็จในการผลิตรถยนต์และมียอดจำหน่ายมากกว่า 1 ล้านคัน เป็นเวลาติดต่อกัน 7 ปีซ้อน นอกจากนี้ รถยนต์ของเรายังถูกส่งออกไปกว่า 170 ประเทศ ทั่วโลก โดยรวมแล้วเราได้ส่งมอบรถยนต์ไปแล้วกว่า 12 ล้านคัน แรงสนับสนุนจากแฟน ๆ และผู้ขับขี่รถยนต์ GWM นับเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้เราไปสู่เป้าหมายการผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) พร้อมส่งมอบยานยนต์คุณภาพให้ผู้บริโภคชาวไทยและทั่วโลกต่อไป”
ภายในงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเปิดตัวโลโก้ใหม่ของแบรนด์ HAVAL ที่ช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยรู้สึกเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงนวัตกรรมที่โดดเด่นของแบรนด์ HAVAL ความเปิดกว้าง และความยืดหยุ่นของแบรนด์ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับผู้ขับขี่ทั่วโลกในยุคดิจิทัล สำหรับประเทศไทยจะมีการใช้โลโก้ใหม่ภายในปีนี้ สำหรับประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน อย่างเช่น ฟิลิปปินส์ จะมีการปรับเปลี่ยนโลโก้ให้กับ HAVAL รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดไปในเดือนนี้เป็นต้นไป
สำหรับ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV เป็นรถยนต์เอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียม สร้างบนแพลตฟอร์ม TANK แพลตฟอร์มโมดูล่าร์ออฟโรดอัจฉริยะ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับระบบเครื่องยนต์ได้หลายประเภทและหลากหลายขนาด ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 350 แรงม้า ให้แรงบิดรวมสูงสุด 616 นิวตันเมตร ระบบเกียร์แบบ 9HAT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด พร้อมโหมดการขับขี่ 11 รูปแบบ
มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น ULTRA และรุ่น PRO และมีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ขาว ดำ เทา แดง และสีใหม่เทาคริสตัล (เฉพาะรุ่น ULTRA) จับคู่กับสีภายในสีดำและทูโทนสีน้ำเงิน-เบจ (เฉพาะรุ่น ULTRA และสีเทาคริสตัล) ตัวรถมีขนาดกว้างขวางและใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน โดยมิติตัวรถอยู่ที่ 1,934 x 5,078 x 1,905 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,850 มม. การออกแบบระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ดับเบิ้ล ครอส อาร์ม และระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายเพื่อตอบสนองการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง เพื่อความต้องการของทุกคนในครอบครัว
All New GWM TANK 500 Hybrid SUV สร้างสรรค์มาด้วยปรัชญาการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ตามลักษณะ DNA ของแบรนด์ TANK ที่มีความบึกบึน แกร่ง แต่เปี่ยมไปด้วยความหรูหรา สง่างาม มีไฟหน้าแบบ Intelligent LED พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow me home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอก LED ไฟหลัง LED แบบแนวตั้งสะดุดตา และกล้องด้านหลังแบบซ่อนในยางอะไหล่ นอกจากนี้ GWM TANK 500 ยังมาพร้อมบันไดข้างระบบไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชัน เปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อเปิด-ปิดประตู และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/50 R20 มอบภาพลักษณ์หรูหราและการขับขี่ที่ไว้ใจได้ในทุกเส้นทาง
ด้านการออกแบบภายใน มีความหรูหรา ทันสมัย แต่ยังคงความเรียบง่าย ด้วยจอแสดงผลการขับขี่ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว และหน้าจอมัลติมีเดีย 14.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบ multi-steering wheel และแพดเดิล ชิฟ พร้อมพวงมาลัยปรับแบบไฟฟ้า 4 ทิศทาง นอกจากนี้ GWM TANK 500 ยังมาพร้อมฟังก์ชันและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มสุนทรียภาพและความสะดวกสบายในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นลำโพง Infinity 12 ตัวพร้อม amplifier เบาะหนัง Nappa คุณภาพสูง เบาะคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบ Memory Seat และ Welcome Seat เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบนวด 8 จุดสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 3 พร้อมพนักพิงปรับไฟฟ้า ม่านบังแดดสำหรับผู้โดยสารแถวสอง พร้อมระบบการจดจำค่าการเซ็ตกระจกด้านข้าง แผงควบคุมที่คอนโซลกลาง พร้อมฟังก์ชันควบคุมการขับขี่แบบออฟโรดช่วยให้การปรับเปลี่ยนการขับขี่ในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นไปอย่างง่ายดาย
ด้านสมรรถนะการขับขี่ออฟโรด All New GWM TANK 500 Hybrid SUV มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ ได้แก่
8 ต.ค. 2567
8 ต.ค. 2567