X

GAC AION จัด Business Matching ปูทางสู่เป้าหมายผลิตขายในไทย 50,000 คัน

Last updated: 1 พ.ย. 2568  |  122 จำนวนผู้เข้าชม  | 

GAC AION จัด Business Matching ปูทางสู่เป้าหมายผลิตขายไทย 50,000 คัน

GAC AION Thailand ผนึกกำลัง BOI และ กนอ. จัดงาน Business Matching ครั้งใหญ่ มุ่งสร้างซัพพลายเชน EV ไทยสู่สากล ตอกย้ำวิสัยทัศน์ “ฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาระดับโลก” พร้อมประกาศเดินหน้าสู่เป้าหมายผลิตแบบ CKD ในปี 2570 และท้าทายกับยอดขายในไทย 50,000 คัน ส่งออก 50,000 คัน ภายในปี 2573

กิจกรรม Business Matching  ครั้งสำคัญนี้ จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง GAC AION Thailand, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ณ ห้องประชุมสมเจตน์ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำนักงานมาบตาพุด จังหวัดระยอง. เพื่อสรรหาและเชื่อมโยงผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สัญชาติไทยที่มีศักยภาพ เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลกของ GAC AION โดยตรง โดยมี 27 บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยเข้าร่วมเจรจาธุรกิจ เพื่อร่วมสร้างเครือข่ายซัพพลายเชน EV ไทยให้แข็งแกร่ง เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568


Mr. Andrew Wang ประธานกรรมการบริหาร GAC AION Thailand ได้นำเสนอวิสัยทัศน์ของ GAC AION Thailand ภายใต้กลยุทธ์ "ONE GAC" ว่า "GAC AION ไม่ได้มองประเทศไทยเป็นเพียงตลาด แต่คือบ้านหลังที่สองและเป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดในภูมิภาค โดยวางตำแหน่งให้ประเทศไทยเป็น ‘สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก’ และ ‘ฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาระดับโลก’ โรงงานที่จังหวัดระยองได้เริ่มดำเนินการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจน"

"ปัจจุบัน เราสามารถสร้างอัตราส่วนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Localization) ได้ถึง 51% และจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ การจัดงาน Business Matching เป็นการยืนยันในคำมั่นสัญญาในการลงทุนเพื่อสร้างงาน และถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย รวมทั้งกำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายการผลิตแบบ CKD ภายในปี 2570 และท้าทายเป้าหมายยอดขายในประเทศ 50,000 คัน ส่งออก 50,000 คัน ภายในปี 2573 ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายนี้ได้ 'พาร์ทเนอร์ซัพพลายเชนในประเทศ' คือหัวใจที่สำคัญที่สุด"
 
นางสาวพัชรดา นวกะวงษ์การ, ผู้อำนวยการกองพัฒนาผู้ประกอบการไทย (BOI) กล่าวว่า "ภารกิจสำคัญของ BOI นอกเหนือจากการส่งเสริมการลงทุน คือการสร้างความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานและยกระดับความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย กิจกรรมในวันนี้ถือเป็นความต่อเนื่องจากงาน AION SOURCING DAY เมื่อปลายปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของ GAC AION ที่จะพัฒนา Supply Chain ภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง BOI เป็นสะพานเชื่อมโยง GAC AION กับผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพใน 3 กลุ่มชิ้นส่วนเป้าหมายหลัก ได้แก่ Interior & Exterior, Body & Chassis และ Electrical & Safety เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรม EV ของไทยอย่างยั่งยืน"
 
นางสาวนลินี กาญจนามัย, รองผู้ว่าการ (บริหาร) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "กนอ. ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ GAC Group เลือกใช้ฐานการผลิตในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง และยังจัดกิจกรรมเชื่อมโยงซัพพลายเชนในพื้นที่ EEC อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณบวกที่ชัดเจนต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจแบบครบวงจร และช่วยส่งเสริมการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานระหว่างผู้ใช้และผู้ผลิตชิ้นส่วนโดยตรง"
 

นโยบายการจัดซื้อของ GAC Group

สำหรับการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าของ ของ GAC Group นั้น Miss Yang Wei ผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อจากสำนักงานใหญ่ GAC Group ได้นำเสนอนโยบายการจัดซื้อโดยประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และการสร้างสรรค์ร่วมกัน' (Efficiency, Transparency, and Co-creation) ที่ไม่ได้มองหาแค่ 'ผู้ขาย' แต่มองหา 'พาร์ทเนอร์' ที่จะวางแผนและเติบโตไปด้วยกันในระดับโลก

“GAC มีซัพพลายเออร์ไทยที่ผ่านกระบวนการและเข้าระบบแล้ว 24 ราย และกำลังขยายการจัดซื้อในประเทศจากชิ้นส่วนทั่วไปที่ไทยมีความได้เปรียบ ไปสู่ชิ้นส่วนเทคโนโลยีหลักของ EV เช่น โครงสร้างแบตเตอรี่ (Battery Housings) และระบบ BMS รวมถึงสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์ตั้งโรงงานหรือคลังสินค้าใกล้กับฐานการผลิตของเรา เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพสูงสุด"



การควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดคือหัวใจสำคัญ

ปัจจัยทางด้านคุณภาพเป็นสิ่งที่ GAC Group ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง Mr. He Liang ผู้อำนวยการฝ่ายคุณภาพ  ได้นำเสนอมาตรฐานการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดอันเป็นหัวใจสำคัญในยุคยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ (ICV) โดยมี 4 เสาหลักในการควบคุมคุณภาพ EV ที่เข้มงวด ได้แก่ 1. ความปลอดภัย (Safety) เป็นพื้นฐานสำคัญ 2. คุณภาพซอฟต์แวร์ (Software Quality) ที่มีบทบาทมากขึ้น 3. ความทนทานและความน่าเชื่อถือ (Durability and Reliability - QDR) และ 4. ประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience) เช่น เสียง (NVH) และกลิ่นภายในห้องโดยสาร

"เราใช้ระบบ QA-Net ควบคุมคุณภาพซัพพลายเออร์ ครอบคลุมไปถึง Tier-2 และใช้หลักการ ‘Stop, Call, Wait’ อย่างจริงจัง คือต้องหยุดทันทีเมื่อเจอปัญหา ห้ามปล่อยให้ปัญหาหลุดไปยังกระบวนการถัดไป GAC AION ได้เปลี่ยนวิธีคิดจากมุมมองวิศวกรเป็นมุมมองผู้ใช้งาน (User-oriented) และต้องการพาร์ทเนอร์ที่เข้าใจในปรัชญานี้ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า"



การจัดงาน GAC Business Matching Event ของ GAC Group ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความก้าวหน้าของแผนงาน "ONE GAC" ในประเทศไทย ทั้งยังเป็นการส่งเสริมและยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์สะอาดของไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ความสำคัญกับการเติบโตไปพร้อมกับพันธมิตรซัพพลายเออร์ชาวไทย เพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็น "ผู้สร้างสรรค์คุณค่าแห่งการเดินทางที่ดียิ่งขึ้น" (Value Creator for a Better Mobile Life) ให้กับผู้บริโภคในไทยและทั่วโลก

ที่มา : GAC AION Thailand

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้