Last updated: 12 Aug 2023 | 466 Views |
ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. ร่วมแถลงข่าวเปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศไทย
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. ร่วมแถลงข่าวเปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศไทยดังนี้
เดือนพฤศจิกายน 2565 สามารภผลิตรถยนต์ได้ 190,155 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกาปีก่อน 15% เพิ่มขึ้นเพราะได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้น จึงผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 19.12% และผลิตเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้น 10.06 % และเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 11.39 %
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤศจิกายน 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 68,284 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.79 % เพราะมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยขายได้เพียง 79.16 % ของยอดการผลิตเพื่อขายในประเทศ ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากกว่า 9 ล้านคน ทั้งยังมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศ มีเงินลงทุนกว่าหนึ่งแสนล้านบาท ส่งผลให้คนมีงานทำเพิ่มขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 เพียง 5.67%
ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือน พ.ย. 2565 อยู่ที่ 87,979 คัน ลดลงจากปีก่อน 10.98% เพราะส่งออกได้แค่ 81.96% ของยอดผลิตเพื่อส่งออกจากการขาดแคลนพื้นที่จอดรถยนต์ส่งออกในเรือประเภทบรรทุกสินค้าที่มีล้อ และมีมูลค่าการส่งออก 56,071.91 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อน 2.89%
สำหรับยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปช่วง 11 เดือนของปีนี้ อยู่ที่ 888,651 คัน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ในระยะเวลาเดียวกัน 3.59% และมีมูลค่าการส่งออก 553,354.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.64%
"ทั้งนี้ คาดว่ายอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจะเป็นไปตามเป้าที่มีการปรับใหม่ช่วงกลางปี อยู่ที่ 9 แสนคัน แต่จะไม่ถึงเป้าหมายเดิมคือ 1 ล้านคัน เนื่องจากมีปัญหาขาดพื้นที่บรรทุกบนเรือที่จะขนส่งไป เพราะแต่ละประเทศสามารถผลิตได้เพิ่มขึ้นก็มาแย่งพื้นที่บรรทุกกัน"
สำหรับยอดจดทะเบียนยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) ในเดือน พ.ย.2565 จดทะเบียนใหม่ 2,878 คัน เพิ่มขึ้น 257.07% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยยอดจดทะเบียนใหม่ ตั้งแต่ม.ค.-พ.ย. 2565 มีจำนวน 18,135 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 234.53% ทำให้ยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV ณ วันที่ 30 พ.ย. 2565 อยู่ที่ 29,402 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 169.40%
7 Oct 2024