X

NEW MG ES รถสเตชั่นแวกอน EV มิติใหม่

Last updated: 21 Aug 2023  |  431 Views  | 

NEW MG ES รถสเตชั่นแวกอน EV มิติใหม่

ยอดจองรถ EV ของค่าย MG ในงานมอเตอร์โชว์ที่กวาดมาได้ 2,840 คันต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดา ที่เยอะกว่าเพื่อนก็ NEW MG MAXUS9 กวาดมา 1,159 คัน ตามด้วย NEW MG ES 855 คัน NEW MG 4 ELECTRIC 559 คัน และ NEW MG ZS EV อีก 267 คัน

เราจะมาดูกันว่าทำไมรถสเตชั่นแวกอนอย่าง NEW MG ES ถึงทำยอดจองได้เฉียด 900 คัน กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ดันให้ค่าย MG ขึ้นแท่นแชมป์ยอดจองรถอีวีในครั้งนี้...

เป็นไปได้ว่า MG มองตลาดขาดด้วยการส่งรถที่สเป็คโดนใจคนไทยมาให้เลือก ในคอนเส็ปท์รถสเตชั่นแวกอนอีวีแนวใหม่ที่ใส่ E- PERFORMANCE แบบรถ EV มาเต็มๆ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง EV ขนาด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร  สามารถเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 8.3 วินาที ทําความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. วิ่งได้ไกล 412 กม. เหลือเฟือสำหรับทุกกิจกรรมของครอบครัว

เปิดตัวในราคา 959,000 บาท ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ



รถสเตชั่นแวกอนอีวีมิติใหม่ (COMFORTABLE STATION WAGON EV)

NEW MG ES ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ที่ยังคงจุดเด่นของรถสเตชั่นแวกอนเอาไว้อย่างดี ทั้งการขับขี่ที่สนุก (PERFORMANCE) ควบคุมรถได้ดั่งใจ (HANDLING) การออกแบบที่เรียบหรู (DESIGN) รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบจัดเต็ม ห้องโดยสารกว้าง ความจุสูงสุด 1,367 ลิตร รองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์ของครอบครัว พร้อมเบาะหลังเลือกปรับพับซ้าย – ขวาได้ตามใจแบบ 60:40

ดีไซน์ภายนอกเรียบหรู สไตล์สเตชั่นแวกอน อีวี

ไฟหน้าใหม่แบบ Light Curtain Design พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) แบบ LED กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว ชุดราวหลังคารองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง และ สปอยเลอร์หลัง ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เสริมหล่อด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว

เป็นดีไซน์ภายนอกที่เรียบหรู ผสมผสานความลํ้าสมัยสไตล์ EV ได้อย่างลงตัว

ความพรีเมียมภายใน

ห้องโดยสารที่กว้าง พร้อมดีไซน์ ENERGETIC BLUE STRIP พร้อมเทคโนโลยี Zero-G Seats เพื่อรองรับสรีระของผู้นั่ง กับความสามารถในกระจายน้ำหนัก ทำให้นั่งสบายตลอดเส้นทาง พื้นที่บรรจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,367 ลิตร เต็มไปด้วยรายละเอียดที่ดีไซน์มาแล้ว

  • คอนโซลแบบ DOUBLE LAYER พร้อมพื้นที่ช่องเก็บของรอบคัน และที่วางแก้ว 
  • เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ DENIM TEXTURE DESIGN กับผิวสัมผัสที่สบายและดูแลรักษาง่าย พร้อมเส้นสายการตกแต่งภายในโทนสีฟ้า ENERGETIC BLUE STRIP 
  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง 
  • เบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้ 60:40
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง ปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์
  • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 จุด
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE-A และ TYPE- C 
  • รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android 
  • กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ
  • ระบบปรับอากาศแบบดิจิตัล พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5
  • ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart key) พร้อมปุ่ม Push Start
  • CONSOLE STORAGE BOX ช่องเก็บของแบบ DOUBLE PANEL พร้อม USB PORT
  • CENTRAL CUP HOLDER ที่วางแก้วเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานบน DOUBLE PANEL

SAFETY& i-SMART

NEW MG ES มาพร้อมระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบครบครันด้วยระบบ SEMI-AUTONOMOUS DRIVING  , ASSISTANCE SYSTEMS พร้อมระบบอัจฉริยะเอกสิทธิ์เฉพาะจาก MG i-SMART TECHNOLOGY (LITE VERSION) ให้คุณเชื่อมต่อกับรถของคุณได้อย่างสะดวกสบายทุกการใช้งาน ผ่าน MG APPLICATION ด้วย SMART CHECK ตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ รวมถึงการค้นหาสถานีชาร์จ ฯลฯ

E- PERFORMANCE ของสเตชั่นแวกอนอีวีแนวใหม่

แบตเตอรี่ที่ใช้ใน NEW MG ES เป็นชนิดลิเธี่ยมไอรอนฟอสเฟต ความจุ 51 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทาง 412 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC) พร้อมระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้มอเตอร์ไฟฟ้า ตัวแบตเตอรี่กันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐานความปลอดภัย IP67

แพล็ตฟอร์มระบบส่งกำลังเป็นแบบ SAIC E1 THREE – ELECTRIC SYSTEM ที่ให้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่แบบ 8-LAYER HAIR PIN PERMANENT MAGNETIC SYNCHRONOUS MOTOR (PMSM) ที่ให้พละกำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มาพร้อมช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ที่ให้การทรงตัวที่ดี ระบบช่วงล่างหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโครง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม

BATTERY AND RANGE

แบตเตอรี่รองรับการชาร์จทั้งแบบไฟบ้านและแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง ถ้าชาร์จผ่าน MG HOME CHARGER จาก 0 – 100% ใช้เวลา 7 ชม. 15 นาที ถ้าชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง QUICK CHARGE (DC) 87 kWh จาก 0 – 80% ใช้เวลา 40 นาที

ที่พิเศษคือมีสถานีชาร์จ MG Super Charge ทั่วไทย 129 สถานี ทุกๆ 150 กม.

VEHICLE TO LOAD

สร้างโมเมนต์ครอบครัวให้พิเศษได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วย VEHICLE TO LOAD (V2L) ระบบการจ่ายพลังงานจากภายในรถ
สู่อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นได้ง่าย ๆ ด้วยกำลังไฟสูงสุดถึง 2,200 วัตต์


SAFETY ปลอดภัย และอุ่นใจทุกการเดินทาง

New MG ES มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) รวม 20 ระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ที่จะส่งสัญญาณเตือนเมื่อรถออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบ ELK จะควบคุมตัวรถโดยปรับองศาพวงมาลัย และส่งสัญญาณเตือน เพื่อให้ตัวรถกลับมาอยู่ในเลน และจะช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน นอกจากนี้ยังมีระบบเซฟตี้เชิงป้องกันอีกกว่า 20 รายการ

  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
  • ระบบควบคุมเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
  • ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
  • ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX 2 จุด
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย 
  • กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
  • สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
  • ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

E- PERFORMANCE สเตชั่นแวกอนอีวีแนวใหม่
  • แพล็ตฟอร์มระบบส่งกำลังใหม่ SAIC E1 THREE – ELECTRIC SYSTEM 
  • มอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่แบบ 8-LAYER HAIR PIN PERMANENT MAGNETIC SYNCHRONOUS MOTOR (PMSM)
  • แบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอรอนฟอสเฟต ความจุ 51 kWh สามารถวิ่งในระยะทาง 412 กม./การชาร์จ (NEDC)
  • พร้อมระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่
  • ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย 
  • แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
  • รัศมีวงเลี้ยว 5.65 เมตร 
  • ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง
  • ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)

มิติตัวถัง

  • ความยาว : 4,600 มม.
  • ความกว้าง : 1,818 มม.
  • ความสูง : 1,543 มม.
  • ระยะฐานล้อ : 2,665 มม.
  • ระยะต่ำสุดจากพื้น : 115 มม.

สีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเทา (Andes Gray) สีแดง (Scarlet Red) และ สีเงิน (Champagne Silver)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  and  นโยบายคุกกี้