Last updated: 12 Aug 2023 | 916 Views |
เพจ MG Thailand อัพเดตความเคลื่อนไหวของ New MG CYBERSTER มาเป็นระยะ ภาพชุดล่าสุดที่นำมาโชว์บ่งบอกว่าใกล้เวลาเปิดตัวทำตลาดกันจริงๆจังๆเสียที โดยเฉพาะหน้าตาของเบาะนั่งหนังสไตล์สปอร์ต กับพวงมาลัยสามก้านแบบสปอร์ตท้ายตัด น่าจะเป็นเวอร์ชั่นขายจริงแล้วล่ะ เพราะแตกต่างจากตัวคอนเส็ปท์คาร์ที่ออกแบบห้องโดยสารเป็นแบบ E-Sport โดยสิ้นเชิง
รถเวอร์ชั่นต้นแบบของ MG CYBERSTER เป็นโรดสเตอร์ไฟฟ้าที่ถูกสร้างเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของแบรนด์ MG ในปี 2024 มาในสไตล์เท่ๆแบบรถเปิดประทุน 2 ที่นั่ง หลังคาผ้าพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้า ระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้าพร้อมพวงมาลัยแบบใหม่
MG Cyberster คันต้นแบบใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบไร้โมดูลที่ทำให้รถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3 วินาที ส่วนรุ่นขายจริงน่าจะลดสเป็คลงมาทำเหลือประมาณ 450-500 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง เพื่อทำราคาไม่ให้สูงเกินไป
Cyberster ใช้แพลตฟอร์ม Nebula หรือ Modular Scalable Platform (MSP) แพลตฟอร์มที่ออกแบบมาสำหรับยานยนต์ EV โดยเฉพาะ ระบบแบตเตอรี่เป็นแบบ One Pack ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ผู้ใช้สามารถอัพเกรดแบตเตอรี่ที่มีความจุมากขึ้นได้ถ้าต้องการ
ดีไซน์ภายในห้องโดยสารของรถต้นแบบ MG CYBERSTER
เวอร์ชั่นขายจริงมีความแตกต่างไปจากเวอร์ชันต้นแบบอยู่พอสมควร ติดตั้งไฟหน้าทรงรีและกันชนหน้าดีไซน์โฉบเฉี่ยวที่ออกแบบให้มีช่องดักลมขนาดใหญ่บริเวณใต้กรอบติดป้ายทะเบียน ขณะที่ด้านท้ายยังคงเอกลักษณ์ไฟท้ายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากธงยูเนียนแจ็ก พร้อมแถบไฟด้านบนที่เชื่อมไฟท้ายทั้งสองข้างเข้าไว้ด้วยกัน เสริมความสปอร์ตด้วยดิฟฟิวเซอร์ท้ายบริเวณกันชน
ตัวถังของเอ็มจีไซเบอร์สเตอร์ที่กำลังจะทำตลาดมีความยาว 4,535 มิลลิเมตร กว้าง 1,913 มิลลิเมตร สูง 1,329 มิลลิเมตร และความยาวฐานล้อ 2,690 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวรถเปล่า 1,850 - 1,985 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย
ภายในห้องโดยสารยังคงเป็นแบบ 2 ที่นั่ง แผงคอนโซลหน้าติดตั้งหน้าจอขนาดใหญ่ที่รวมทั้งหน้าจอแสดงข้อมูลและหน้าจออินโฟนเทนเมนต์เข้าไว้เป็นจอเดียว ส่วนพวงมาลัยจะเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นท้ายตัด หุ้มด้วยหนัง ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม มาพร้อมเบาะนั่งแบบสปอร์ต
รถต้นแบบ MG CYBERSTER
ขุมพลังมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง และขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังจะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 231 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 314 แรงม้า (PS) ทำความเร็วสูงสุดได้ 193 กม./ชม. ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์ ( 204 แรงม้า) ที่ล้อคู่หน้า และมอเตอร์ขนาด 250 กิโลวัตต์ ( 340 แรงม้า) ที่ล้อคู่หลัง สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 200 กม./ชม. และมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาต่ำกว่า 3 วินาที
อีกไม่นานเกินรอคงมีข่าวการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ที่มา : เพจ MG Thailand