Last updated: 17 Sep 2023 | 689 Views |
เปอร์โยต์อัพเลเวลการผลิตรถ EV ขึ้นไปอีกระดับด้วย STLA platform ใหม่ โดยมี Peugeot E-3008 เป็นรถไฟฟ้า 100% โมเดลแรกที่ติดตั้งบนแพลตฟอร์มนี้...สามารถอัพสมรรถนะให้วิ่งได้ไกลถึง 700 กม.
แพลตฟอร์ม STLA Medium BEV ล่าสุดของ Stellatis เป็นหัวใจหลักที่จะนำแบรนด์ไปสู่อีกระดับหนึ่ง แพลตฟอร์มนี้ได้รับการออกแบบเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดด้วยพิสัยการเดินทางสูงสุด 700 กม. โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 30 นาที
แพลตฟอร์ม STLA ใหม่รวมเอาเพลาหน้าและหลังที่ออกแบบเพื่อให้การยึดเกาะถนนแบบไดนามิก แพลตฟอร์มนี้เลือกใช้วัสดุที่เบาและแข็งแรง รวมถึงการลดจุดศูนย์ถ่วงของรถลงด้วยแบตเตอรี่ชั้นเดียวที่วางตำแหน่งอย่างเหมาะสมระหว่างล้อให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อการยึดเกาะถนนและความเพลิดเพลินในการขับขี่
แพลตฟอร์มนี้สามารถส่งพลังงานระหว่างล้อได้สูงสุดถึง 98 kWh จากฐานล้อที่สั้น (2.73 ม.) การออกแบบประสิทธิภาพสูงนี้ช่วยให้ E-3008 วิ่งได้ไกลสุดในรถประเภทเดียวกัน
มอเตอร์ของ E-3008 เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัสแบบแม่เหล็กถาวรเจเนอเรชั่นใหม่ ให้กำลังและประสิทธิภาพที่มากขึ้น รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อมีกำลัง 157 kW (343 Nm) กับขนาด 170 kW (343Nm) ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์คู่ ให้กำลังรวม 240kW (157kW-343Nm ที่ด้านหน้า และ 83Kw-166Nm ที่ด้านหลัง)
แบตเตอรี่ของ E-3008 เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแรงดันสูง 400V ที่มีองค์ประกอบทางเคมีของ NMC (นิกเกิล แมงกานีส และโคบอลต์) ส่วนไฟที่จ่ายให้ระบบสาระบันเทิง ฯลฯ มาจากแบตเตอรี่ 12 โวลต์
แบตเตอรี่มี 3 สเป็ค
• ขนาดความจุ 73 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 525 กม.
• ขนาดความจุ 73 kWh มอเตอร์คู่ วิ่งได้ระยะทาง 525 กม.
• ขนาดความจุ 98 kWh วิ่งได้ไกล 700 กม.
การจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ใช้สารหล่อเย็นหมุนเวียนเพื่อรองรับการชาร์จที่รวดเร็วเป็นพิเศษ ระยะที่เหมาะสมที่สุด และอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
แบตเตอรี่รับประกัน 8 ปี (หรือ 160,000 กม.) ที่ 70% ของความจุการชาร์จ
ช่องเสียบอยู่ที่ปีกด้านหลังซ้าย มีการเชื่อมต่อโหมด 2/3 (ไฟฟ้ากระแสสลับ) และโหมด 4 (ไฟฟ้ากระแสตรง)
สำหรับการชาร์จแบบ AC มีเครื่องชาร์จในตัวสองประเภทให้เลือกเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของลูกค้าและโซลูชันการชาร์จ โดยมีเครื่องชาร์จแบบสามเฟสขนาด 11kW เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และเครื่องชาร์จแบบสามเฟสขนาด 22kW เป็นตัวเลือก
สำหรับการรีชาร์จแบบ DC ผ่านซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ ช่องเสียบโหมด 4 รองรับระดับพลังงานได้สูงถึง 160kW ทำให้สามารถชาร์จตั้งแต่ 20% ถึง 80% ได้ใน 30 นาทีสำหรับรุ่นช่วงมาตรฐาน และน้อยกว่า 30 นาทีสำหรับเวอร์ชันระยะไกล
นอกจากนี้ E-3008 จะเป็นรถรุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยี i-Cockpit รุ่นล่าสุด ซึ่งประกอบด้วยจอแสดงผลพาโนรามาแบบโค้งขนาด 21 นิ้ว ที่รวมแผงหน้าปัดดิจิทัล จอแสดงผลบนกระจกหน้า และหน้าจอทัชสกรีนเข้าเป็นหน่วยเดียวเหนือพวงมาลัย เสริมด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาดเล็กบนคอนโซลกลางที่มีทางลัด "i-Toggle" ซึ่งสามารถตั้งโปรแกรมเพื่อให้เข้าถึงฟังก์ชันโปรดของผู้ใช้ทั้ง 10 รายการได้อย่างรวดเร็ว เช่น การโทรหาผู้ติดต่อที่ชื่นชอบ การนำทางไปยังปลายทางที่ใช้บ่อย ปรับวิทยุไปที่สถานีโปรด การตั้งค่าอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสม ฯลฯ
โหมดการขับขี่มี 4 โหมด ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ผ่านตัวควบคุมที่อยู่บนคอนโซลกลาง เพื่อให้สมรรถนะตรงตามความต้องการของผู้ขับขี่และ/หรือสภาพการจราจรได้อย่างเหมาะสม
-โหมดปกติ เป็นโหมดเริ่มต้น กำลังและแรงบิดจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเหยียบคันเร่งระหว่าง 0 ถึง 70% ซึ่งจะมีกำลังและแรงบิดเต็มที่มากกว่า 70%
- โหมดอีโค ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลขึ้นและลดการใช้พลังงานโดยใช้การตั้งค่าคันเร่งเฉพาะ การจำกัดกำลังและแรงบิด
- โหมดสปอร์ต ให้การขับขี่ที่ไดนามิกมากขึ้น โดยใช้การกำหนดค่าเฉพาะสำหรับพวงมาลัยเพาเวอร์และคันเร่ง
- โหมด 4WD (ถ้ามี) ใช้งานได้ที่ความเร็วสูงสุด 135 กม./ชม. โหมดนี้จะกระจายกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ล้อเมื่อพื้นผิวถนนลื่น หรือเส้นทางแบบออฟโรด
"การเปิดตัว Next-Level E-3008 ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ PEUGEOT ให้เป็นแบรนด์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีเสน่ห์ ซึ่งกำหนดมาตรฐานใหม่ในด้านการออกแบบ ความเพลิดเพลินในการขับขี่ และประสิทธิภาพ ด้วยการออกแบบภายนอก PEUGEOT Panoramic i-Cockpit® อันงดงาม ขับขี่อย่างเพลิดเพลินและสมรรถนะทางไฟฟ้าที่ไม่เคยมีมาก่อน Next-Level E-3008 จะนำ PEUGEOT เข้าสู่ยุคใหม่ในฐานะแบรนด์ฝรั่งเศสที่นำเสนอรถยนต์ไฟฟ้ากระแสหลักที่หลากหลายที่สุดในตลาด” ลินดา แจ็กสัน ซีอีโอ ของ PEUGEOT กล่าว
PEUGEOT ได้เปลี่ยนแปลง E-3008 โดยยกระดับความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ ความพึงพอใจในการขับขี่ และสมรรถนะระบบไฟฟ้า
ดีไซน์ภายนอกของ E-3008 ใหม่มาในสไตล์รถเอสยูวีแบบฟาสต์แบ็ค รูปทรงไดนามิก มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานหรือแอโรไดนามิก (Cx 0.28) ความมีชีวิตชีวาของเส้นสายแมวเหมียวของ E-3008 ยังเกิดจากขนาดที่สมดุลของตัวรถ (ความยาว : 4.54 ม. ความกว้าง : 1.89 ม. ความสูง : 1.64 ม.) ซึ่งเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีขนาดกะทัดรัดที่สุดในกลุ่ม C-segment ประเภท SUV ไฟฟ้า 100% โดยมีพื้นที่ห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง
ด้านหน้าสุดไฮเทค กระจังหน้าแสดงให้เห็นยีนส์ทางไฟฟ้าของรถรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี การออกแบบใช้ตราสัญลักษณ์ PEUGEOT ใหม่ โดยผสานผสานไฟแบบใหม่และกระจังหน้าโดยไม่มีการกำหนดขอบเขต ด้วยการไล่ระดับสีของตัวถังรถ
ไฟหน้าขนาดกะทัดรัดเป็นพิเศษอยู่ในแถบเส้นบางๆซึ่งอยู่เหนือกระจังหน้าและพันรอบส่วนหน้าทั้งหมด ตอกย้ำความทันสมัยและบุคลิกภาพ
ไฟหน้าเป็นแบบ LED ทุกรุ่น E-3008 GT มาพร้อมกับเทคโนโลยี Pixel LED ใหม่ของ PEUGEOT ซึ่งจะปรับลำแสงไฟหน้าให้เข้ากับสภาพการจราจรโดยอัตโนมัติ โดยคงไว้ซึ่งแสงสว่างที่เหมาะสมโดยไม่รบกวนผู้ใช้ถนนรายอื่น
ในแง่ของการตกแต่งภายนอก E-3008 นำเสนอแนวทางใหม่ ทันสมัยกว่า และทนทานยิ่งขึ้น โดยถอดชิ้นส่วนโครเมียมออก หันมาใช้ชิ้นส่วนเคลือบแล็คเกอร์แทน : สีเทา Meteor ที่สเกิร์ตหน้าและกันชนหลัง , สีดำ Orbital Black บนฝาครอบกระจกมองข้างและขอบเข็มขัดด้านล่าง ในรุ่น GT ส่วนล่างของกันชนหน้าและหลัง ซุ้มล้อ และกาบบันไดประตูก็ตกแต่งด้วยสีดำเงาเช่นกัน
ที่ด้านหลังของรถถูกยกระดับให้ทันสมัยด้วยสปอยเลอร์แบบ "ลอย" ช่วยเพิ่มส่วนโค้งของตัวถัง ในขณะเดียวกันก็ปรับหลักอากาศพลศาสตร์ให้เหมาะสม
E-3008 ติดตั้งล้อที่มีส่วนช่วยทำให้มีสไตล์ที่ทันสมัยและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยล้อขนาด 19 นิ้ว หรือ 20 นิ้ว ที่มีการออกแบบทางเทคนิคและหลักเรขาคณิต มีตราสัญลักษณ์ PEUGEOT ใหม่อยู่ตรงกลาง
E-3008 ใหม่มีให้เลือก 6 สี ด้วยเม็ดสีไดโครมาติกที่เป็นนวัตกรรมใหม่ Obsession Blue จึงเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีเขียว ขึ้นอยู่กับแสงและรูปทรงของตัวถังรถ แสดงถึงการเข้าสู่ยุคใหม่ของ E-3008 อย่างหรูหรา สีน้ำเงิน Ingaro ใหม่พร้อมการสะท้อนที่ละเอียดอ่อน เน้นเส้นสายที่ทันสมัยของ E-3008 ใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สีอื่นๆ ที่มีจำหน่าย ได้แก่ Okenite White , Pearl Black , Artense Grey และ Titanium Grey ส่วน E-3008 GT ใหม่ มาในสีทูโทนพร้อมหลังคาสีดำเงาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
PEUGEOT E-3008 จะผลิตที่โรงงาน Sochaux ในฝรั่งเศส และจะวางจำหน่ายในยุโรปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567
ที่มา : PEUGEOT