Last updated: 8 Oct 2023 | 2439 Views |
รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV กำลังได้รับความนิยมและมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่ารถน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วันนี้มีเทคนิคการยืดอายุแบตเตอรี่ในรถยนต์ EV มาฝากกัน
1.วางแผนก่อนการเดินทาง เผื่อระยะทางไว้ล่วงหน้า
เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้า (EV) วิ่งได้ไกลประมาณ 300 กม.ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (บางรุ่นอาจวิ่งได้ไกลกว่านี้) จะต้องเผื่อระยะทางสำหรับการแวะชาร์จแบตเตอรี่ให้ดี โดยค้นหาสถานีชาร์จในจุดที่ต้องขับผ่าน เพื่อให้เดินทางได้อย่างต่อเนื่อง
2.ควรชาร์จไฟให้ได้ระดับ 70-80%
การชาร์จไฟให้ถึง 80% คือระดับที่ถูกคำนวณและทดสอบมาแล้วว่าช่วยประหยัดเวลาในการชาร์จและการเดินทางได้มากที่สุด ใช้เวลานิดหน่อยแต่ไม่มากจนเกินรอ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแวะชาร์จหลายครั้ง
3.ขับรถด้วยความเร็วคงที่ ช่วยประหยัดพลังงาน
การขับรถโดยใช้ความเร็วคงที่ตามที่กฎหมายกำหนด จะช่วยประหยัดพลังงานได้มาก เช่น การขับด้วยความเร็ว 90 กม./ชม. จะขับได้ระยะทางไกลกว่าขับด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. โดยพฤติกรรมการขับขี่ คือ ตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อประสิทธิภาพของรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
4. เบรกเพื่อชาร์ตแบตเตอรี่ จะมีการชาร์จทุกครั้งที่เหยียบเบรก
การชาร์จตามสภาพจราจรหรือสภาพการขับขี เป็นกระบวนการเปลี่ยนพลังงานจลน์ไปเป็นพลังงานไฟฟ้าเก็บไว้ที่แบตเตอรี่ คำว่า adaptive หมายถึง ระดับความเข้มขนของพลังงานที่เกิดจากการเบรก ซึ่งหมายความว่าทุกครั้งที่เราเบรกขณะรอไฟจราจรก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเก็บพลังงานและชาร์จอีกด้วย
5. อุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยในการยืดอายุแบตเตอรี่
อุณหภูมิ คือตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อสมรรถนะและประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ หลักการเดียวกับแบตเตอรี่สมาร์ทโฟน ร้อนไป – เย็นไปก็เปลืองแบตเตอรี่ ต้องพยายามรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ถึงจะได้สมรรถนะและประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งหมายถึงระยะทางไกลที่สุดที่จะวิ่งได้
ขอบคุณที่มา: https://car2day.com/trick-plan-to-travel-by-ev-car-2022
ที่มา : เพจ EPPO สนพ. กระทรวงพลังงาน
1 Nov 2024