Last updated: 6 ธ.ค. 2568 | 101 จำนวนผู้เข้าชม |
MG Thailand เปิดตัว NEW MG ETERRON 9 กระบะไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ชูจุดเด่นเรื่องสมรรถนะและความปลอดภัย โดยระบุพลังสูงสุด 436 แรงม้า จับคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 102 kWh ให้ระยะทางในการขับขี่สูงสุด 430 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก Euro NCAP
ห้องโดยสารออกแบบมาให้กว้างขวางสะดวกสบาย เหมาะทั้งงานสายในเมืองและการใช้งานหนัก ส่วนความปลอดภัยได้มาตรฐาน 5 ดาวจาก Euro NCAP — เป็นสัญญาณว่าทาง MG ใส่ใจทั้งโครงสร้างตัวถัง ระบบถุงลมนิรภัย และเทคโนโลยีช่วยขับขี่
ETERRON 9 ถูกพัฒนาให้เป็น “Electric Utility Truck” ที่ตอบโจทย์ทั้งภาคธุรกิจ ผู้ใช้งานสาธารณูปโภค หน่วยงานภาครัฐ รวมถึงผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการรถกระบะที่เงียบ นุ่ม ทรงพลัง และค่าดูแลรักษาต่ำกว่าเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดิมอย่างชัดเจน
โครงสร้าง High-Strength Steel พร้อมเสริมความแข็งแรงบริเวณท้ายกระบะ เพื่อรองรับแบตเตอรี่ LFP ขนาดใหญ่ ระบบช่วงล่างออกแบบให้รับน้ำหนักบรรทุกและงานลากจูง
ดีไซน์ภายนอก (Exterior) เน้นความบึกบึนและทันสมัยแบบรถกระบะไฟฟ้าเจเนอเรชันใหม่ ไฟหน้า LED แบบ Full Beam ดีไซน์เส้นคมสไตล์รถ Off-road สมัยใหม่ กระจังหน้าทึบแบบ EV Aero Shield ลดแรงต้านลม ติดโลโก MAXUS ขนาดใหญ่ กันชนหน้าดีไซน์ High Approach Angle เพิ่มศักยภาพการลุย ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ (คาดการณ์ 18–20 นิ้ว ขึ้นกับรุ่นย่อย) มีช่องเก็บของด้านหน้าแบบ Frunk จุได้ 236 ลิตร กระบะท้ายทรงใหญ่รับน้ำหนักได้สูง พร้อมปลั๊กไฟใช้งานอุปกรณ์ภายนอก (V2L) ไฟท้าย LED ลายกราฟิกแบบ Signature
ดีไซน์ภายใน (Interior) เป็นจุดขายสำคัญ MG ระบุว่า “กว้างขวางและสะดวกสบายกว่าเดิม” โดยไฮไลต์ที่คาดว่าจะพบในรุ่นจำหน่ายจริงคือหน้าจอกลางขนาดใหญ่ 12–14 นิ้ว พร้อมระบบ Infotainment ใหม่ มาตรวัดดิจิทัลเต็มรูปแบบ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อมระบบช่วยขับ เบาะนั่งออกแบบให้รองรับการใช้งานระยะยาว แอร์หลัง และช่องชาร์จไฟ USB-C/USB-A ครบ NVH ลดเสียงรบกวนได้ดีเพราะเป็น EV ไม่มีเสียงเครื่องยนต์
สมรรถนะ มอเตอร์ไฟฟ้า และระบบขับเคลื่อน
กำลังสูงสุด: 436 แรงม้า คาดว่าเป็นมอเตอร์แบบ Dual Motor AWD แบบเดียวกับกับรถไฟฟ้า MG รุ่นปัจจุบัน ระบบขับเคลื่อน AWD แบบอิเล็กทรอนิกส์กระจายแรงบิดอัตโนมัติ แรงบิดยังไม่ระบุ คาดการณ์ว่าน่าจะอยู่ระหว่าง 600–700 Nm ตามมาตรฐานรถกระบะไฟฟ้ารุ่นใหม่
การที่ MG เลือกกำลังสูงสุด 436 แรงม้ายืนยันว่ารถรุ่นนี้เน้น “แรงดึงบรรทุก + การลากจูง” มากกว่าเรื่องความเร็วสูงสุด
แบตเตอรี่รองรับการชาร์จแบบ DC Fast Charge 120–150 kW ชาร์จจาก 20–80% ในเวลาประมาณ 30–40 นาที และรองรับ AC Home Charge ขนาด 11 kW โดยชาร์จเต็มใน 9–10 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชัน Vehicle to Load (V2L) ด้านหน้าจ่ายไฟ 2.2 kW และกระบะท้าย รองรับอุปกรณ์ไฟฟ้าสูงสุด 6.6 kW
ระบบช่วงล่าง ด้านหน้า: Double Wishbone หลัง Multi-link หรือ Leaf Spring เฉพาะรุ่นงานบรรทุก
ล้ออัลลอย 18–20 นิ้ว ยาง All-Terrain สำหรับวิ่งใยทุกสภาพถนน
ระบบความปลอดภัย
มาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว แสดงให้เห็นว่า ETERRON 9 ผ่านการทดสอบชนตามมาตรฐานยุโรปที่เข้มงวดที่สุด มีการติดตั้ง AEB ตรวจจับคนเดินเท้า/จักรยาน/ Adaptive Cruise Control / Lane Keeping Assist / Blind Spot Monitor / Rear Cross Traffic Alert / กล้องรอบคัน 360° / โครงสร้างตัวถังเสริมพิเศษปกป้องแบตเตอรี่
ผลิตในจีนเป็นหลัก รุ่นพวงมาลัยขวาเตรียมผลิตเพื่อส่งออกเอเชีย ถ้าเข้ามาทำตลาดในไทย ETERRON 9 จะดวลกับ BYD Shark EV / Riddara RD6 / Toyota Hilux Travo-e โดย MG จะใช้จุดเด่น “แรงม้าเยอะ + แบตใหญ่ + ราคาเอื้อมถึง” เป็นใบเบิกทางสำคัญในตลาดนี้ จากโครงสร้างต้นทุน + ภาษีไทย + แนวทางตั้งราคาของ MG ในตลาด EV คาดว่าจะเปิดในช่วง 1.49–1.79 ล้านบาท (ขึ้นกับรุ่นและออปชัน)
ถ้าเปิดราคาต่ำกว่านี้ตลาดกระบะไฟฟ้าไทยก็คงคึกคักขึ้นมาทันที
เอ็มจี เผยโฉม NEW MG ETERRON 9 ครั้งแรกในประเทศไทย ในงาน Motor Expo 2025
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย โชว์ตัวกระบะอีวี NEW MG ETERRON 9 ครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน ชูการบริการหลังการขายที่ครบวงจร และมีความพร้อมในทุกมิติ และจุดเด่นที่แตกต่างอย่าง EV LIFETIME WARRANTY รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน โดยไม่จำกัดระยะทางและผู้ครอบครองรถ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ mgcars.com
